นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ปชป.จะพยายามผลักดันให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ เพราะถือเป็นทิศทางที่ได้พูดไว้ตั้งแต่ต้น และที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ได้ทำหน้าที่จนกระทั่งวาระสุดท้ายคือการลงคะแนนเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3
สำหรับในสถานการณ์ขณะนี้การแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะการแก้ทั้งฉบับยังมีเครื่องหมายคำถาม และยังไม่มีข้อยุติว่าสุดท้ายแล้วจะต้องไปทำประชามติก่อนวาระ 1 หรือไปทำประชามติหลังผ่านวาระ 3 ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นข้อถกเถียง อีกทั้งตนเองเคยเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกรอบ แต่ข้อเสนอของตนเองยังไม่ทันได้พิจารณา แต่ญัตติก็ตกไปก่อนเพราะมีการโหวตวาระสาม
ส่วนกรณีที่มีผู้ไปยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พิจารณาเอาผิดกับ ส.ส.และ ส.ว.รวม 208 คนที่ลงมติในวาระสามนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า การลงมติให้ความเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เป็นไปตามมติของรัฐสภาในวันนั้น เพราะก่อนที่ 208 คนจะลงมติให้ความเห็นชอบก็เป็นมติของที่ประชุมรัฐสภาว่าให้นำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 3 ได้ และถือว่าการลงมติให้ความเห็นชอบวาระ 3 วันนั้นเป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยชอบทุกประการไม่ได้มีปัญหาอะไร
สำหรับกรณีที่จะมีการแก้อำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งญัตตินี้เคยถูกตีตกไปแล้วครั้งหนึ่ง และหากมีการยื่นครั้งต่อไปจะได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.หรือไม่ เป็นทำหน้าที่ที่ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นไม่ได้อยู่ที่ ปชป.เพียงพรรคเดียวหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น ต้องขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมร่วมและขึ้นอยู่กับวุฒิสมาชิกไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม และขึ้นอยู่กับฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า 20% ด้วย ซึ่งเป็นเงื่อนไขบังคับที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขยาก แต่ต้องฝ่าด่านนี้ไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นการแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถทำได้เลย
อย่างไรก็ตาม ตนเองอยากเห็น ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. จับมือหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำมาสู่ข้อสรุปที่จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญราบรื่น โดยไม่ตัดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกไป โดยขณะนี้ได้เริ่มต้นคุยกันแล้ว 3 พรรค ยังไม่ได้คุยกับพรรคพลังประชารัฐ หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่ต้องไปหารือกันเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
นายจุรินทร์ ยืนยันว่า ในส่วน ปชป.จะใช้ความพยายามในการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นประโยชน์กับประเทศในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญไม่แพ้ปัญหาการเมือง เพราะถ้าการเมืองนิ่ง การเมืองสงบ ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็จะบรรลุผลได้ราบรื่นขึ้น และจะเป็นทางออกให้กับประเทศได้
ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกฎหมายพรรค กล่าวว่า นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพรรคจัดทำการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกกันในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) เพื่อเริ่มต้นทำเป็นต้นร่าง มีร่างเดิมที่ได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วคือ มาตรา 256 และมาตรา 272 และมีประเด็นเรื่องระบบเลือกตั้ง รวมไปถึงประเด็นการตรวจสอบถ่วงดุลในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเรื่องสิทธิชุมชน เป็นประเด็นเบื้องต้น ทำแยกเป็นรายฉบับ และไม่มีการแก้ไขในหมวด 1 และ หมวด 2 เมื่อดำเนินการเสร็จก็จะได้นำเสนอหัวหน้าพรรคต่อไป ฝ่ายกฎหมายคาดว่าจะเสร็จทันก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญ