พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมตามที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้ชักชวนมวลชนมารวมตัวตามแนวรถไฟฟ้าว่า ได้กำชับแต่ละกองบังคับการที่เป็นเส้นทางผ่านของสถานีรถไฟฟ้า ให้จัดเตรียมกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งสิ้น 18 กองร้อย ส่วนตำรวจนครบาลจะเตรียมกำลังสำรองสนับสนุนหากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ การตั้งเวทีปราศรัย ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากการชุมนุมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับมีประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 5 มี.ค.64 ประกาศห้ามมีการชุมนุมในทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ห้ามจัดกิจกรรมที่มีลักษณะมั่วสุมอันอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแพร่เชื้อโรค
"ถ้ามีการชุมนุมจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 และประกาศฯ ฉบับที่ 5 และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคอีกส่วนหนึ่งด้วย" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
สำหรับผู้ที่ประกาศเชิญชวน ส่งต่อ กระจายต่อ ด้วยประการหนึ่งประการใด ตลอดจนผู้ร่วมชุมนุม ถือว่าร่วมกระทำผิดทั้งหมด ซึ่งจะได้รับโทษตามกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาสาธารณะสมบัติของประเทศชาติ มีหน้าที่ป้องกันเหตุร้าย ภยันอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อสร้างความสงบสุขให้กับสังคม โดยแนวทางที่ตำรวจดำเนินการไปนั้นเป็นไปตามหลักกฎหมาย หลักยุติธรรม และหลักสากล
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ได้กำชับเกี่ยวกับเรื่องข้อปฏิบัติต่างๆ ในเรื่องการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน โดยจะเป็นตามกฎกติกา ข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่ได้ว่าจะมีการใช้น้ำหรือแก๊สน้ำตาหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ตามสถานการณ์ แต่จะพยายามให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งทุกครั้งก็จะมีการทบทวนบทเรียน เรื่องยุทธวิธี เรื่องต่างๆ ที่จำเป็น หากมีสิ่งใดผิดพลากก็ต้องแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น
ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีหรือไม่หลังกลุ่ม WeVo จะเข้าร่วมชุมนุมด้วยนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังการชุมนุมวันนี้มีแกนนำ ซึ่งโดยปกติพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว พื้นที่เฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับศูนย์การค้าถึงแม้จะเป็นพื้นที่เอกชน แต่ก็เป็นพื้นที่ที่ประชาชนมาใช้บริการก็มีมาตรการร่วมกัน แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน คือมีการทำความเข้าใจว่ากำลังทำผิดกฎหมายอยู่ ต้องมีประกาศ มีขั้นตอนเตือน แต่จะใช้กำลังก็ต่อเมื่อเริ่มเป็นอันตราย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ไม่ได้สั่งการหรือให้ดูแลอะไรเพิ่มเติม และเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดูแลความเรียบร้อย ทุกอย่างมีกฎหมายอยู่แล้ว แต่ขอสื่อฯให้มองทั้งสองด้าน และให้กำลังใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เพราะตำรวจที่เข้าไปดูแล ไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย