นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและเครือข่าย เดินทางเข้ายื่นหนังสือ 3 สถานทูต ประกอบด้วย สถานทูตสหรัฐอเมริกา, สถานทูตเยอรมนี และสถานทูตสวิตเซอร์ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นจดหมายเรียกร้องให้ทั้ง 3 สถานทูตติดตามสถานการณ์และเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 คน โดยเฉพาะ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ซึ่งได้อดอาหารมาเป็นเวลา 45 วันและ 30 วันตามลำดับ
ส่วนที่เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อทั้ง 3 สถานทูตดังกล่าว เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถพึ่งพาใครได้ และรัฐบาลไทยไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ถูกจับกุม อีกทั้งในช่วงนี้รัฐบาลพยายามใช้สถานการณ์โควิด-19 ในการห้ามทำกิจกรรม ในการเรียกร้องการปล่อยตัว จึงอยากขยายความจริงให้ทั่วโลกรับทราบและ ทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวถือเป็นประเทศที่เห็นแก่เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก
ขณะที่ทาง สน.ลุมพินี ได้จัดกำลังตำรวจเกือบ 10 นาย มาคอยดูแลความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าสถานทูตตั้งแต่ช่วงเช้า หลังได้รับการประสานจากการกลุ่มมวลชนว่าจะนัดรวมตัวมายื่นหนังสือ โดยไม่ได้เป็นการร้องขอจากทางสถานทูตแต่อย่างใด แต่บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ด้านนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา พร้อมทนายความเพื่อยื่นขอให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราวนายพริษฐ์ อีกครั้ง และได้ดสินใจโกนผม เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความไม่ยุติธรรม
ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน/TLHR เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้นำตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ออกจากเรือนจำไปยัง รพ.รามาธิบดี เพื่อให้สารอาหารทางหลอดเลือด และส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารเนื่องจากเพนกวินแจ้งว่ามีการถ่ายออกมาเป็นเลือดในวันนี้