ประชาชนชาวปากีสถานจำนวนมากรู้สึกว่าภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราของอดีตนายกรัฐมนตรีเบนาซีร์ บุตโต ขัดแย้งกับที่เธออ้างว่าตนเองเป็นแม่พระผู้มาโปรดผู้ยากไร้ในปากีสถาน โดยเฉพาะในสลัมเมืองการาจี โดยประชาชนจำนวนมากตั้งคำถามว่า คนยากคนจนต้องรออีกนานแค่ไหนจึงจะได้รับความช่วยเหลือที่แท้จริง
"เราอยู่ในช่วงเวลาที่มีแต่ความสับสนวุ่นวาย" นายอับดุล กาห์นี ผู้ที่มีรายได้เพียง 40 ดอลลาร์ต่อเดือนกล่าว "นางบุตโตเป็นคนรวย แต่นางไม่ได้อยู่ที่นี่นานแล้ว ตอนนี้นางจึงไม่ใช่คนสำคัญอีกต่อไป"
หลังเดินทางกลับจากการลี้ภัยนานถึง 8 ปี นางบุตโตได้เรียกร้องให้มีการสร้างงานและความเจริญให้กับชาวปากีสถาน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับวีรสตรีของอาร์เจนติน่าอย่าง เอวา เปรอง ซึ่งสวมสูทสุดหรูของคริสเตียน ดิออร์ ขณะที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือชาวนาผู้ยากไร้
"เราจะไม่หยุดจนกว่าประชาชนผู้ยากไร้ใน 4 จังหวัดจะมีที่อยู่ อาหาร และเสื้อผ้า" นางบุตโตกล่าว
ความน่าเชื่อถือของนางบุตโตลดลงจากการที่นางและสามีถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชั่น นอกจากนั้นทางการสวิตเซอร์แลนด์ยังตั้งข้อหาฟอกเงินกับเธอในปี 2546 โดยข้อหาดังกล่าวถูกยกฟ้องไป แต่คดียังอยู่ระหว่างการสืบสวน
ความนิยมในตัวนางบุตโตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพิสูจน์ได้จากจำนวนผู้สนับสนุนที่มารอรับเมื่อนางกลับไปยังปากีสถานหลายปีหลังจากที่บิดาของนางถูกแขวนคอในปี 2522 แต่การกลับสู่มาตุภูมิของนางเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีผู้สนับสนุนมารอรับน้อยกว่าเดิมหลายแสนคน และจบลงด้วยโศกนาฏกรรมเมื่อมีการระเบิดฆ่าตัวตายที่คร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ถึง 136 รายและบาดเจ็บอีกมากมาย สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--