พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจว่าการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะผ่านความเห็นชอบในวาระแรก และจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการต่อไป
ทั้งนี้ การบริหารงบประมาณไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนพูด ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านมา รัฐบาลดำเนินการหลายโครงการ เช่น การพัฒนาด้านคมนาคม แหล่งน้ำ เป็นโครงการในอนาคตที่ทำเพื่อประชาชน
พร้อมยืนยันความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นแฟ้น และไม่น้อยใจที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอภิปรายทวงติงการจัดสรรงบประมาณ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.อยากใช้พื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น และใช้ประโยชน์ในเรื่องของการเมือง ซึ่งส่วนตัวจะพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งดูแลทุกจังหวัด แม้ใครจะไม่เลือกตนเองก็ตาม
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ในการทำงานของรัฐบาลได้ให้เกียรติรองนายกรัฐมนตรีทุกคน โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน แต่คงต้องรับฟังข้อมูลจากหลายภาคส่วน ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
"ยืนยันว่าผมและท่านรองนายกฯและรมว.สธ.พูดคุยกันเสมอ ผมให้เกียรติทุกคน ถ้าอะไรมีประโยชน์ผมพร้อมให้เสมอ อย่างไรก็ดีกรณีดังกล่าวหากไม่มีใครพาดพิงให้เสียหายก็จะไม่ตอบโต้ ขออย่างเดียวอย่าสร้างความเกลียดชังกันให้มากนัก วันนี้ประเทศไทยต้องการความสามัคคีเพื่อผ่านเรื่องดังกล่าวไปให้ได้"
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลพยายามจัดหาวัคซีนให้มีความเพียงพอ ส่วนการโยกงบไปไว้ในงบกลางยืนยันว่าไม่ได้โยกไปเพื่อให้ใครโดยเฉพาะ โดยเปิดโอกาสให้พรรคร่วมรัฐบาลเสนอโครงการขึ้นมา แต่ต้องผ่านขั้นตอนตั้งแต่คณะกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งจะต้องทำให้ถูกต้อง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ถึงการจัดซื้อวัคซีนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เตรียมให้แจ้งไปยัง อปท.ว่าสามารถจัดซื้อวัคซีนที่สำนักงานอาหารและยา (อย.) รับรองได้ แต่ต้องอยู่ในแผนของ ศบค. รวมถึงให้ติดต่อการซื้อผ่านรัฐ
"ที่ผ่านมา อปท. ต้องการเข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์ ทั้งการป้องกัน สกัดโรครวมถึงการรักษา แต่ตามกฎหมายเรื่องการซื้อวัคซีน สามารถทำได้ เพราะคือการรักษาและฟื้นฟู แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ มีคำแนะนำของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบุว่า ในการจัดหาวัคซีนระยะแรกขอให้รัฐเป็นผู้จัดหา ส่วนการจองและซื้อวัคซีนนั้น สาธารณสุข ได้ติดต่อและจองซื้อนานแล้ว และกระจายวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชน" พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจง
รมว.มหาดไทย ชี้แจงด้วยว่า เข้าใจว่า อปท.ต้องการช่วย แต่มีสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ งบประมาณของ อปท. และการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่ต้องทำให้ได้ 70% ของประชากร โดยคำว่าประชากรนั้น หมายถึง ประชากรทั้งประเทศ หรือ ของแต่ละจังหวัด ดังนั้น หากให้ อปท.แต่ละแห่งจัดซื้อกันเองอาจเกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามหลักการที่สาธารณสุขต้องการให้ขึ้นพร้อมกันทั้งประเทศ
ทางด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงถึงโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่า ต้องฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ภูเก็ต 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.นี้ และโครงการต่อไปในวันที่ 1 ต.ค.จะเปิดแหล่งท่องเที่ยวใน 10 จังหวัด โดยไม่กักตัว ได้แก่ เชียงใหม่ กรุงเทพ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และบุรีรัยม์ เพราะพบว่าใน 10 จังหวัดสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 62 ถึง 1.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้จะประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนำร่องได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.- 31 ธ.ค.64
"ส่วนการกระตุ้นการท่องเที่ยว เร็วๆ นี้ จะมีโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยเป็นการจัดการท่องเที่ยวโดยบริษัททัวร์ มีมัคคุเทศก์ประจำรถ เพื่อส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวให้หมุนเวียน และเกิดการท่องเที่ยววันธรรมดา ทั้งนี้โครงการกำลังใจ และโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ดำเนินการแล้ว ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ กว่า 6.1หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐบาลสนับสนุนเงิน ไปเพียง 9,320 ล้านบาท" นายพิพัฒน์ ชี้แจง