นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ว่า ได้เชิญ ส.ส. ของพรรคประชุมในวันที่ 8 มิ.ย.64 เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณา พ.ร.ก. เงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่จะมีการประชุมพิจารณา พ.ร.ก.ดังกล่าวในวันที่ 9 มิ.ย.นี้
เมื่อพิจารณา พ.ร.ก.นี้ พบว่าจะนำเงินกู้ไปใช้จ่ายใน 3 ส่วนสำคัญ คือ 1. ใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุข 2. การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และ 3. การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้กรอบวงเงินกู้ 5 แสนล้านบาท
นายองอาจ กล่าวว่า การออก พ.ร.ก.เพิ่มเติมครั้งนี้ต่อเนื่องมาจากที่ออก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจากการดำเนินการตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในขณะที่หลายโครงการก็ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพราะฉะนั้นการใช้เงินกู้เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.ก.นี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. ต้องนำการใช้เงินกู้ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนว่าอะไรบ้างที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่ควรจะเป็น และเร่งปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
2. การดำเนินการใดๆ จากการใช้เงินกู้ที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมายก็อาจทำต่อไป แต่ควรมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
3. การใช้เงินกู้ครั้งนี้ ไม่ควรมุ่งเน้นแก้ปัญหาระยะสั้น หรือปัญหาเฉพาะหน้าแต่เพียงอย่างเดียว ควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในระยะยาวด้วย เพราะโควิด-19 อาจจะอยู่กับเรายาวพอสมควร จึงควรเตรียมความพร้อมรับมือล่วงหน้า
4. เป้าหมายสำคัญของ พ.ร.ก.นี้ไม่ควรเป็นเพียงการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ จากโควิด-19 เท่านั้น แต่ควรสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมั่นใจว่าภาระหนี้ที่เราต้องแบกรับร่วมกันนี้ จะทำให้เราสามารถอยู่รอดปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วยการบริหารจัดการทางด้านสาธารณสุข การเยียวยา และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสังคมอย่างนักบริหารมืออาชีพ
"เชื่อมั่นว่า ข้อเสนอนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า แก้ปัญหาได้จริง จึงขอฝากนายกรัฐมนตรี และ ศบค. ดำเนินการให้การใช้จ่ายตาม พ.ร.ก. เงินกู้ครั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป" นายองอาจกล่าว