พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวว่าตนส่งสัญญาณไปยังลูกพรรคให้เตรียมพร้อม หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น เช่น การยุบสภาว่า เป็นการปล่อยข่าว ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะรัฐบาลยังทำงานไม่ครบเทอมหรือ 4 ปี สื่อเขียนข่าวไปเอง และไม่ทราบว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ แต่ตามกฎหมายให้รัฐบาลทำงานถึง 4 ปี
อย่างไรก็ดี พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เพราะมองว่าเป็นเรื่องสถานการณ์วันข้างหน้า และระบุว่าคงคิดคนเดียวไม่ได้ หลายพรรคหลายคนต้องร่วมกันคิดว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ และสถานการณ์ขณะนั้นเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐมีความเข้มแข็ง ไม่มีเรื่องการดูด ส.ส.จากพรรคอื่นเข้ามา
สำหรับแนวทางการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคนั้น ถือเป็นเรื่องของพรรค ตนไม่อยากบอกอะไร เพราะเชื่อว่ามีคนไม่อยากรู้ก็เยอะ ดังนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคและสมาชิกพรรคได้หารือดำเนินการร่วมกัน
ขณะที่การประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐที่กำลังจะมีขึ้นนั้น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การประชุมพรรคได้เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว แต่ทางพรรคก็จะต้องชี้แจงเรื่องของงบดุลประจำปี ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับทราบ จนถึงขณะนี้ยังไม่กำหนดวันประชุม และยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ออกมา มีเพียงสื่อที่นำเสนอข่าวเท่านั้น
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวภายหลังที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องดูแลให้เกิดการใช้จ่ายอย่างโปร่งใส ซึ่งเรื่องนี้ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง แต่ในส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ ที่มี ส.ส.อภิปรายติติงการใช้งบเงินกู้ฉบับนี้นั้น ไม่ใช่การสะท้อนว่าเกิดปัญหาขึ้นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียด ดังนั้นต้องสอบถามกับส.ส.ที่อภิปราย
พร้อมยอมรับว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ได้เป็นการเคลียร์ปัญหาเกี่ยวกับการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน เป็นการพูดคุยเรื่องอื่นๆ เป็นการส่วนตัว
พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ย้ำว่าได้กำชับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในการลงพื้นที่พบกับประชาชน และขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาของคนจน ผู้มีรายได้น้อย และตรงกับแนวทางของพรรคที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น
ด้านปัญหา ส.ส.เสียบบัตรแทนกันที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการชี้มูล ซึ่งหนึ่งในนั้นมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐร่วมด้วยนั้น พล.อ.ประวิตร เห็นว่า ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ ป.ป.ช.พิจารณา ยืนยันว่าการทำงานในขณะนี้ไม่ความกังวลใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นห่วง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะน้องชายที่มีอารมณ์และลีลาดุเดือดในสภาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูการอภิปรายที่ผ่านมาด้วยว่ามีเจตนาอย่างไร
ส่วนกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นำนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีน้องชมพูเสียชีวิตมาแถลงข่าวที่อาคารรัฐสภานั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่สมควรอย่างไร และในส่วนของพรรคก็จะต้องเรียกนายสิระ เข้ามาพูดคุย คงไม่ถึงกับต้องคาดโทษไว้ก่อน แต่ก็ต้องเรียกมาคุย และดูว่าจะชี้แจงอย่างไร