นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงสรุปการอภิปรายร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาทว่า การอภิปรายในซีกรัฐบาลประกาศชัดว่าจะสนับสนุน แต่มีข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ และข้อติติงเยอะมาก โดยเฉพาะการนำเม็ดเงินไปแก้ไขปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเสียงอภิปรายจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมองเห็น และสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้เลย
ขณะที่ฝ่ายค้านยืนยันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่เห็นชอบกับ พ.ร.ก.ดังกล่าวฯ ด้วยเหตุผลหลายประการ เนื่องจากไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 และผิดกรอบวินัยการเงินการคลัง อย่างไรก็ดี การทำคำร้องเพื่อยื่นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อนว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
นอกจากนี้ เม็ดเงินที่กู้มา 1 ล้านล้านบาทก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ซึ่งเม็ดเงินที่กู้ใหม่เมื่อเทียบกับเม็ดเงินเดิมที่กู้มาก็น้อยกว่ามาก ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะใช้เม็ดเงินที่ขอกู้ใหม่นี้มาแก้ปัญหาได้อีก พร้อมมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตลอดจนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่มีความสามารถในการบริหารหนี้ การหาเม็ดเงินมาใช้หนี้ และความสามารถในการบริหารเงินกู้ในจำนวนดังกล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สภาฯ โดยเฉพาะในซีกฝ่ายรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามการใช้เม็ดเงินจำนวนนี้ แต่ต้องรอวุฒิสภาผ่านความเห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับนี้ก่อน ซึ่งคาดว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะเป็นผู้เสนอ เพราะมองว่า กมธ.ชุดเดิมที่ติดตามเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงต้องเสนอชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน
สำหรับแนวคิดที่จะมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะขึ้นไปจาก 60% นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แนวคิดนี้มีการนำเสนอจริง โดยรัฐบาลเป็นผู้เสนอเอง คาดว่าจะขยายไปที่ 65-70% แต่ความมั่นคงทางการคลังอาจจะมีปัญหา ดังนั้นที่ผ่านมาจึงระมัดระวังมาก