นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยมีมติยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด จากที่ก่อนหน้านี้พรรคได้ทำไปแล้วแต่ถูกที่ประชุมรัฐสภาตีตกไป จึงต้องทำใหม่ ประกอบกับมีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บรรจุในรัฐสภาแล้ว ซึ่งทราบมาว่าจะมีการเร่งรัดบรรจุวาระพิจารณาให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นพรรคเพื่อไทยให้สมาชิกลงชื่อไว้ครบตามจำนวน 1 ใน 5 โดยยืนยันว่าแนวทางของพรรคเพื่อไทย เป็นการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตรา ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งแก้ไขรายมาตรา ทั้งหมด 5 ร่าง คือ
- แก้ไขมาตรา 256 ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไปยกร่างรัฐธรรมนูญ
- แก้ไขเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในด้านต่างๆ เช่น การตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ กรณี กมธ.ห้ามเรียกองค์กรอิสระ หรือศาลมาสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่
- แก้ไขระบบการเลือกตั้งให้กลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญ ปี 40 และ ปี 50 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
- แก้ไขที่มาของนายกรัฐมนตรี มาตรา 159 และ 272 ที่ตัดอำนาจ ส.ว.ในการร่วมโหวตเลือกนายกฯ
- แก้ไขมาตรา 279 ยกเลิกอำนาจ คสช. ซึ่งต้องรีบยื่นภายในสัปดาห์หน้า
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนใหญ่ร่างของฝ่ายเพื่อไทยสอดคล้องพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะมีสาระที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่ร่างรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่แก้ไขมาตรา 256 และแก้ไขระบบเลือกตั้งจากเดิมที่ใช้ระบบบัตร 2 ใบ ปรับกลับมาใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว จึงต้องจับตาดูว่าจะปรับอย่างไร เพราะตอนนี้อยู่ในรัฐสภาแล้ว ดังนั้นขอให้ช่วยติดตามสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ไม่สู้ปกตินัก เพราะมีสัญญาณว่าอีก 1 ปี อาจมีการยุบสภา ข้อสันนิษฐานไปสอดคล้องกับการเร่งรัดนำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้าสู่รัฐสภา ในวันที่ 22 มิ.ย. ถ้าแก้เสร็จได้จะเอื้อประโยชน์กับการเลือกตั้ง
"โดยเฉพาะร่างแก้ไขของพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีการทำไพรมารีโหวตในระดับเขตเลือกตั้ง เพราะตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดของพลังประชารัฐ มีไม่ถึงกึ่งหนึ่งของเขตเลือกตั้งที่เขามีอยู่ ดังนั้น ถ้ามีการทำไพรมารีโหวต พรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหาแน่" นพ.ชลน่าน กล่าว