นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.ประกาศคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ที่เสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา พร้อมประกาศจะรับเฉพาะร่างของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ว่า ต้องถามกลับไปที่ ส.ว.ว่าที่บอกรับเฉพาะร่างของพรรค พปชร.นั้น คิดทบทวนดีหรือยังว่าเหตุผลคืออะไร ช่วยอธิบายสังคมด้วย เพราะร่างของพรรค พปชร. กับร่างของฝ่ายค้านมีข้อเหมือนกันเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะระบบเลือกตั้ง และหมวดสิทธิเสรีภาพของประชาชนก็มีเหมือนกัน
"เมื่อร่างของพรรคฝ่ายค้าน และ พปชร.เหมือนกัน แต่ท่านแยกไปรับเฉพาะของ พปชร.ด้วยเหตุผลอะไร แสดงว่าท่านไม่ได้ยึดหลักการ แต่ยึดหน้าคน และยึดฝ่ายหรือ" นายสุทิน กล่าว
ส่วนร่างฯ ที่แตกต่างจากพรรค พปชร. คือ เสนอการแก้ไขมาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร.ร่างนี้เป็นร่างเดิมกับที่ยื่นไปครั้งที่แล้ว และ ส.ว.ก็รับหลักการร่างนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็รับร่างนี้ ที่ยิ่งน่าคิดไปกว่านั้นคือ ในชั้นการแปรญัตติ ส.ว.ก็ร่วมแปรญัตติด้วย ร่วมเห็นชอบในวาระที่ 2 เรียบร้อย
"เราเอาสาระในวาระที่ 2 ที่ทุกคนเห็นชอบนั้นมายื่น แล้ววันนี้ท่านมาบอกว่าท่านไม่เห็นชอบเพราะอะไร มีอะไรไปเปลี่ยนใจท่าน ในเมื่อท่านร่างมากับมือ ทำมากับมือ เห็นชอบมากับมือ แล้วทำไมไม่รับ" นาสุทิน กล่าว
ก่อนหน้านี้หากจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องไปทำประชามติ ส.ว.ก็ตำหนิพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ไปถามประชาชนก่อน เมื่อวันนี้เราจะเข้าสู่กระบวนการถามประชาชนนั่นคือเสนอเข้าสภา เมื่อรับหลักการแล้วเราก็ไปทำประชามติ เราทำตามหมด แล้ว ส.ว.จะมาปฏิเสธก่อนถามประชาชนได้อย่างไร ทำไมให้ประชาชนได้ลงประชามติว่าเขาจะแก้หรือไม่แก้ ส.ว.จะมาตัดโอกาสไม่รับหลักการเลย เท่ากับปิดโอกาสประชาชนทำไม
"วันนี้หาก ส.ว.ไม่รับร่างของพวกเรา ผมมองไม่เห็นเหตุผล มีเหตุผลเดียว คือ ท่านมีธงในใจแล้วว่าอย่างไรก็ไม่รับ ทำอย่างไรก็ไม่รับ ไม่แก้ แบบนี้ท่านก็บอกมาตรงๆ และการที่ท่าน ส.ว.ออกมาพูดแบบนี้ เหมือนท่านไม่เกรงใจประชาชน และท้าทายประชาชนด้วย ถ้าท่านบอกว่าของพิจารณาไปก่อน ดูไปก่อน อันนี้ยังถือว่าให้เกียรติประชาชน อันนี้ยังไม่เข้าสภาเลย ท่านปฏิเสธแล้ว โดยเฉพาะการแก้มาตรา 256 ที่เราต้องการให้ประชาชนมาชี้ว่าเขาต้องการแก้หรือไม่ ทั้งนี้ เราทราบว่าท่านท้าทายประชาชนมาตลอกด แต่ไม่คิดว่าท่านจะขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนท่านยังมีเหตุมีผล แต่วันนี้ท่านไม่มีความละอาย เพราะฉะนั้น ทั้งไม่อาย ทั้งท้าทายประชาชน เป็นคุณสมบัติของอะไร เป็นนักการเมืองหรือเปล่า เป็นคนที่คิดว่ามาทำงานให้ประชาชนหรือไม่ ผมขอถามกลับ" นายสุทิน กล่าว
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พท. กล่าวว่า สิ่งที่ ส.ว.คนเดียวพูดอาจไม่ใช่แนวคิดของ ส.ว.ทั้ง 250 คน แต่ส่วนตัวยังมั่นใจลึกๆว่า ส.ว.หลายคนที่มาจากการสรรหา จะตัดสินใจอะไรต้องยึดความต้องการของประชาชนเป็นหลัก เพราะส.ว.ถือเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเหมือนกัน ดังนั้น โอกาสที่จะผ่านความเห็นชอบทั้ง 14 ร่าง คงต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเองยังมั่นใจด้วยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จะได้รับโอกาส ขอแค่รัฐสภามีมติเห็นควรให้เอาไปทำประชามติถามประชาชนก่อน เท่านี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
"หลายเรื่องที่เราเสนอไม่กระทบ ส.ว. และการที่เราจะเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามภายใต้รัฐธรรมนูญเดิม เราจะยังหนีวงจรอุบาทว์ไม่พ้น ดังนั้น อะไรที่ไม่ดีในรัฐธรรมนูญนี้ ถ้าแก้ได้ก็ควรต้องแก้" นพ.ชลน่าน กล่าว