นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงผลประชุม ส.ส.ของพรรคว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยที่จะผลักดันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ให้สำเร็จผ่านวาระ 3 ต่อไป เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่จะเป็นสาระสำคัญขั้นตอนวิถีการดำเนินการในการรับฟังเสียงของประชาชนคือการทำประชามติ
นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบให้รับหลักการในวาระที่หนึ่งของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 13 ฉบับ ส่วนรายละเอียดที่จะต้องปรับแก้ในบางส่วนก็จะมีการแปรญัตติเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนในชั้นคณะกรรมาธิการต่อไป เช่น มาตรา 144 ในร่างแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่มีการยื่นแก้ไขมาตรา 144 มี ส.ส.หลายคนจะได้แปรญัตติเพื่อให้มีบทกำหนดโทษในความผิดต่อการแปรญัตติงบประมาณที่ ส.ส.หรือ ส.ว.หรือกรรมาธิการได้แปรญัตติมีส่วน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดโทษไว้คงเดิมคือ หากมีใครกระทำความผิดก็จะต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพและให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันซึ่งดีอยู่แล้ว รวมถึงกรณีการแก้ไขมาตรา 185 ก็จะมี ส.ส.ของพรรคเกือบทุกคนจะมีการแปรญัตติเพื่อให้มีข้อความห้ามแทรกแซงการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รัฐให้คงอยู่ในรัฐธรรมนูญต่อไป
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีมติเลือกคณะกรรมาธิการไปทำหน้าที่ในการพิจารณาในวาระสองคือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายชินวรณ์ บุญเกียรติ และนายชัยชนะ เดชเดโช
ส่วนการกำหนดผู้อภิปรายมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าชื่อเพื่ออภิปรายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะนำการอภิปรายโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน พร้อมผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย นายชินวรณ์ บุญเกียรติ, นายนริศ ขำนุรักษ์, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เป็นต้น