กลุ่มราษฎร ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน ได้เคลื่อนมวลชนจากบริเวณอนุสาวร์ย์ประชาธิปไตยไปยังรัฐสภาเกียกกาย เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสมาชิกรัฐสภา
โดยนายพริษฐ์ได้มอบหนังสือ พ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองปี 2475 ของคณะราษฎร์ และ น.ส.ปนัสยา ได้มอบหมุดคณะราษฎร์เป็นที่ระลึกให้กับ ส.ส.ฝ่ายค้าน เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย, น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และมอบหนังสือพ.ร.บ.ธรรมนูญการปกครองปี 2475 ของคณะราษฎร์ ให้กับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
หลังจากนั้นตัวแทนกลุ่มราษฎรทั้ง 4 คนจะเข้าไปยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อประธานรัฐสภา ส่วนแกนนำกลุ่มราษฎรคนอื่นๆ ได้ตั้งเวทีทำกิจกรรม "ราษฎรยืนยันดันเพดาน" ท่ามกลางมาตรการดูแลความเรียบร้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ตำรวจควบคุมฝูงชน และตำรวจ สน.บางโพ มีการปิดประตูทางเข้า-ออกอาคารรัฐสภาฝั่งถนนทหาร โดยแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยบนเวทีชั่วคราวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกิจกรรมสันทนาการ และมีการทำพิธีกรีดเลือดสาปแช่งผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญภาคประชาชน
ขณะที่ในระหว่างรอบรรดาแกนนำเข้าไปยื่นหนังสือ เกิดเหตุวุ่นวายเล็กน้อย เนื่องจากมีชายใส่เสื้อเหลืองเข้ามาถ่ายรูปทำให้การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมต้องไล่ออกไป
สำหรับจดหมายเปิดผนึกของกลุ่มราษฎร ระบุว่า เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันครบรอบ 89 ปีที่คณะราษฎรได้ก่อการอภิวัฒน์สยาม พ ศ.2475 เพื่อยุติการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เริ่มต้นการปกครองระบอบประชาธิปไตย และก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญขึ้นเพื่อประกาศว่า อำนาจสูงสุดในประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย จากเดิมที่ราษฎรไม่มีโอกาสสิทธิเสียงหรืออำนาจใดๆ ในการเมืองการปกครอง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสถานะของราษฎรจากไพร่ข้าเป็นเจ้าของประเทศ มีสิทธิมีเสียงทางการเมือง
ด้วยความสำคัญแห่งรัฐธรรมนูญที่คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดขึ้น ผองราษฎรทั้งหลายจึงได้ร่วมกันยื่นหนังสือฉบับนี้เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดเจตนารมณ์คณะราษฎรที่ว่า "อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎร" การแก้ไขหรือจัดทำร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นไปโดยให้ราษฎรเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด มิใช่เพื่อผลประโยชน์หรือความพึงพอใจของผู้มีอำนาจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น โดยราษฎรขอแสดงจุดยืนดังต่อไปนี้
1.รัฐธรรมนูญพึงเป็นของประชาชน การแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่นั้นจะต้องกระทำผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด
2.รัฐธรรมนูญจะต้องไม่เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของเผด็จการประยุทธ์และคณะ บทบัญญัติใดที่เอื้อให้เกิดการสืบทอดอำนาจอย่างไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น อำนาจของวุฒิสภาและองค์กรอิสระต่าง ๆ จะต้องถูกยกเลิก
3.การแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่นั้นจะต้องร่างหรือแก้ได้ทุกหมวด ทุกมาตรา ไม่มีข้อยกเว้น
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากรับจดหมายเปิดผนึกจากกลุ่มราษฎรแล้วจะจัดส่งให้แต่ละพรรคนำไปพูดคุยกันว่าจะมีแนวทางการขับเคลื่อนข้อเสนอของกลุ่มราษฎรให้ไปสู่เป้าหมายภายใต้กรอบกติกาของกฎหมายที่มีอยู่ได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวคิดว่าต้องเริ่มต้นจากการทำประชามติสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อนว่าสมควรที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
สำหรับกระบวนการทางรัฐสภาที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ก็มีเนื้อหาสาระคล้ายคลึงกัน โดยหลังจากผ่านการลงมติรับหลักการในวาระที่ 3 แล้วก็จะมีการทำประชามติ ซึ่งขณะนี้รอกฎหมายประชามติมีผลบังคับใช้ก่อนจึงจะสามารถผลักดันต่อไปได้ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร ต้องค่อยๆ ทำไปในประเด็นที่เห็นว่ามีปัญหา
และภายหลังเสร็จสิ้นการยื่นหนังสือแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักรอการลงมติของที่ประชุมร่วมรัฐสภาก่อนเคลื่อนขบวนไปจัดกิจกรรมต่อที่บริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน ในเวลา 17.00 น. โดยมีนายพริษฐ์, น.ส.ปนัสยา, นายภาณุพงศ์, นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์, นางสาวเบนจา อะปัญ, น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา และนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า จะเป็นผู้ปราศรัยหลัก