นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อไต่สวนพิจารณาข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหา นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดพัทลุง พรรคภูมิใจไทย, นายภูมิศิษฏ์ คงมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพัทลุง พรรคภูมิใจไทย, นางนาที รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย, นายสมบูรณ์ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย, นางสาวภริม พูลเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดนครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ และนายโกวิทย์ พวงงาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ว่าใช้ผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติ ในการพิจารณาและลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
จากการไต่สวนข้อเท็จจริง คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของนายฉลอง นายภูมิศิษฏ์ และนางนาที ซึ่งปรากฏว่าไม่อยู่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ปรากฏชื่อแสดงตนและลงมติ ร่างพระราชบัญญัติฯ ด้วย ฟังได้ว่า เป็นการใช้ผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติในการพิจารณาและลงมติแทนตนเอง อันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 17 และข้อ 21
พร้อมทั้งมีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณีต่อไป
ส่วนการกระทำของนางสาวภริม และนายทวิรัฐ เห็นควรส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้รักษาการตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับการกระทำของนายสมบูรณ์ และนายโกวิทย์ จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า มีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่นตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ยังได้ชี้มูลความผิด น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.เขต 7 (บางซื่อ-ดุสิต) กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ใช้ผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติ ในการพิจารณาและลงมติร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 พ.ศ. ... ด้วยเช่นกัน