พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองนัดชุมนุมในวันที่ 2-3 ก.ค.64 โดยในวันนี้กลุ่มราษฎร และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้นัดนัดมวลชนรวมตัวที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ก่อนที่จะเคลื่อนมายังบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อจัดกิจกรรมเปิดท้ายวันศุกร์ลุกไล่เผด็จการ โดยอ้างว่าเป็นช่องทางทำมาหากินของประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวผิดกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงและมีคำสั่งห้ามรวมตัวเกิน 20 คน และการรวมตัวปิดถนนเพื่อขายของจะเป็นการซ้ำเติมให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น
"โดยสถิติเมื่อวานนี้ในเขตกรุงเทพฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด 1,960 คน และมีผู้เสียชีวิต 32 คน การนัดรวมตัวกันชุมนุมเกิน 20 คนไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ทั้งแกนนำ ผู้ชักชวน ตลอดจนผู้มาร่วมชุมนุมถือว่าทำผิดกฎหมาย" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ส่วนวันที่ 3 ก.ค.64 มีการนัดชุมนุมหลายกลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มประชาชนคนไทย โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา นัดรวมตัวบริเวณแยกอุรุพงษ์ในเวลา 15.00 น.แล้วเคลื่อนขบวนมาบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก
2.กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดรวมตัวบริเวณแยกผ่านฟ้าในเวลา 16.00 น.แล้วเคลื่อนขบวนมาบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
3.กลุ่มของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นัดรวมตัวบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลา 17.00 น.เพื่อทำกิจกรรม Car Mob ขับรถเป็นขบวนไปตามถนนสายสำคัญในกรุงเทพฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนอาจยึดรถยนต์ไว้เป็นของกลางและเสนอให้ศาลริบรถของกลาง
"ช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ อยู่ในระดับที่รุนแรง จึงขอความร่วมมือจากทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา และงดมาร่วมการชุมนุมดังกล่าว" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ทั้งนี้ บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังพลในการดูและความเรียบร้อยและอำนวยการด้านจราจร โดยวันนี้ใช้กำลังพล 6 กองร้อย ส่วนวันพรุ่งนี้ใช้กำลังพล 9 กองร้อย
สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้สามารถส่งสำนวนสอบสวนให้อัยการฟ้องร้องแล้ว 163 คดี และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนอีก 60 คดี ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 และ 26 มิ.ย.64 ในวันพรุ่งนี้จะมีการส่งหมายเรียกผู้ต้องหา 19 รายมารับทราบข้อกล่าวหา และการชุมนุมบนสกายวอล์คเมื่อวันที้ 26 มิ.ย.จะมีการส่งหมายเรียกผู้ต้องหา 11 รายมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีออกมาปลุกระดมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืนนั้น เจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูอยู่ หากพบการเจตนากระทำผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมและฝากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส