โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)เปิดเผยว่า คตส.กำหนดกรอบเวลาในการตรวจสอบข้อมูลทุจริต 7 โครงการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐให้เสร็จเรียบร้อยภายในสิ้นปีนี้เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องดำเนินคดีในชั้นศาล
"ภายในสิ้นปีนี้ โครงการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ซึ่ง คตส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบและไต่สวนจะเสร็จสิ้นเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลได้แน่นอน 7 โครงการ" นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.กล่าว
โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX 9000, โครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าในสนามบินสุวรรณภูมิ, โครงการก่อสร้างแอร์พอร์ตลิ้ง, โครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว(หวยบนดิน), โครงการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น, กรณีที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์)ปล่อยกู้แก่รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท และกรณีทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย
นายสัก กล่าวว่า คตส.ยังได้วางกรอบเวลาไว้รองรับหากบางโครงการไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ตามกำหนด เช่น โครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร โดยการตรวจสอบและไต่สวนในระยะสองต้องแล้วเสร็จในภายในเดือน มี.ค.51 และระยะสุดท้ายภายในเดือน มิ.ย.51 ซึ่งอายุการทำงานของ คตส.คงสิ้นสุดลงก่อน
อย่างไรก็ตาม โฆษก คตส.ปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำงานแบบ 2 มาตรฐานตามที่ถูกกล่าวหา แต่จะทำงานทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานที่มีกฎหมายกำหนดไว้
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--