ล่าสุดม็อบราษฎร ได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากแยกอุรุพงษ์ ไปตามถนนพิษณุโลก เพื่อมุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว โดยมีประชานส่วนหนึ่งปักหลักรอบริเวณแยกนางเลิ้ง และมีการตั้งโต๊ะ-ปูผ้า เพื่อวางขายของตามเส้นทาง และมีการตั้งเวทีปราศรัยบนรถขยายเสียง ซึ่งขณะนี้นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำผู้ชุมนุมได้ขึ้นกล่าวปราศรัยท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก
นายพริษฐ์ กล่าวก่อนปราศรัยว่า วันนี้จุดประสงค์ของการทำกิจกรรมเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเปิดตลาดให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการของรัฐบาลในการจัดการปัญหาโควิด-19 นำของมาขาย
พร้อมกล่าวว่า กลุ่มราษฎรยืนยันที่จะเคลื่อนไหวอย่างสันติไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ขัดต่อหลักกฎหมายอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีของเงื่อนไขการได้รับประกันตัวส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีการกระทำการใดๆ ขัดต่อเงื่อนไขที่ศาลวางเอาไว้เพราะไม่ได้ทำให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในบ้านเมืองไม่ได้ยุ่งเกี่ยวหรือกระทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสียและที่สำคัญที่ผ่านมาก็ได้เดินทางไปตามนัดหมายของศาลทุกครั้ง
นอกนั้นได้มีแกนนำแนวร่วมคนอื่นๆ มาร่วมทำกิจกรรมด้วย อาทิ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลาประมาณ 16.00 น. หลังกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และคณะราษฎร นัดจัดกิจกรรมหน้าทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยโดยรอบทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ได้มีการนำรั้วเหล็กและรั้วลวดหนามหีบเพลง ปิดการจราจรทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ แยกพาณิชยการ จากแยกมิสกวัน แยกวัดเบญจมบพิตร- แยกนางเลิ้ง และสะพานเทวกรรม ถึงแยกพาณิชยการ ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล ในระยะ 200 เมตร
พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันติบาล พร้อมตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง ดูแล ความเรียบร้อยพื้นที่ชั้นใน และได้เตรียมกำลัง ตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ 6 กองร้อย เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมหากเกิดเหตุชุลมุนหรือความไม่สงบ
นอกจากนี้ ได้มีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง 2 คัน จอดไว้ฝั่งประตูหน้าทำเนียบรัฐบาลตรงข้ามกับกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมรถน้ำ และรถควบคุมผู้ต้องขังอีก 3 คัน