นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันนี้จะมีการหารือถึงแนวทางการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร หลังมีมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ทั้งล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวส์ในพื้นที่เสี่ยงเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจากการหารือกับ ศบค.ในแต่ละครั้ง ศบค.อนุมัติให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถดำเนินการประชุมจนสิ้นสุดสมัยการประชุมได้ แต่ก็ต้องให้ความร่วมมือในช่วงที่มีการประกาศคุมเข้มเรื่องงดการเดินทางข้ามจังหวัดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
"การหารือวันนี้จะพูดคุยถึงแนวทางร่วมกันว่าหากจะต้องหยุดการประชุมสภาฯ จะใช้เวลากี่วันจึงจะเหมาะสม" นายชวน กล่าว
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐสภามีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีความเข้มงวดอยู่แล้ว โดยเฉพาะภายในห้องประชุมใหญ่ ซึ่งสมาชิกให้ความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นอย่างดี พร้อมกำชับทุกฝ่ายมาโดยตลอดไม่ให้หละหลวมต่อมาตรการต่างๆ ที่วางไว้ ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และบุคลากรที่มีความเสี่ยงหรือตรวจพบว่ามีการติดเชื้อก็ได้เข้ารักษาตัว และมีมาตรการทำงานที่บ้าน (WFH) อยู่แล้ว โดยมาตรการต่างๆ ดำเนินการมาก่อนที่จะมีประกาศของ ศบค.ล่าสุด แต่หากต้องยกระดับสูงขึ้นก็จะต้องดำเนินการหารือกับทุกฝ่ายให้เข้าใจตรงกัน
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เบื้องต้นประธานสภาผู้แทนราษฎรมีแนวคิดที่จะให้งดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะสอบถามความคิดเห็นจากวิป 3 ฝ่ายอีกครั้ง ขณะที่การประชุมกรรมาธิการชุดต่างๆ ส่วนใหญ่ให้งดประชุมไปก่อนหน้านี้ ยกเว้นกรรมาธิการวิสามัญบางชุดที่มีความจำเป็น เช่น กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565
ส่วนกรณีที่มีผู้เสนอให้ใช้ Rapid Antigen Test ตรวจหาเชื้อกับ ส.ส.ก่อนเข้าประชุมสภาฯ นั้น ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขไม่อนุมัติให้ดำเนินการได้ แต่ล่าสุดมีการปลดล็อกแล้ว หากสภาฯ ดำเนินการได้จะพิจารณาอีกครั้ง