นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 กล่าวว่า ในการประชุมกมธ.ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ จะมีงบกระทรวงกลาโหมเข้าสู่การพิจารณา มีวงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท และตนขอยืนยันว่าในงบปี 2565 ยังคงมีงบในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำจากจีน จึงมีความพยายามจะผ่าน โดยไม่ให้ ผบ.เหล่าทัพเข้ามาชี้แจง แต่ในทางกลับกันเมื่อวานนี้ งบประมาณของเหล่าทัพได้เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา แต่ ผบ.เหล่าทัพก็มาชี้แจงด้วยตัวเองครบทุกเหล่าทัพ
"รัฐบาลทำไมใจดำแบบนี้ ถึงจะซื้อเรือดำน้ำให้ได้ในสภาวะที่คนอดอยากหิวโหยแบบนี้ ท่ามกลางการเสียชีวิตของประชาชนจากการติดเชื้อ วันนี้ตนจึงต้องมาฟ้องประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของงบประมาณ" นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายนุทธพงศ์ กล่าวว่า การกระทำในลักษณะที่ไม่ยอมให้ผู้บริหารหน่วยเข้าชี้แจงในห้องกรรมาธิการใหญ่นั้นไม่เหมาะสม และจะเกิดข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการพิจารณางบประมาณได้ รวมถึงมีความผิดปกติ เพราะในห้องอนุกรรมาธิการ หัวหน้าส่วนราชการก็มาชี้แจงเองทั้งนั้น การกระทำแบบนี้เป็นเหมือน "ปิดประตูตีแมว"
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ กล่าวว่า เข้าใจถึงบรรยากาศการประชุมของกรรมาธิการฯ ในสถานการณ์โควิด-19 เป็นอย่างดี เพราะจะมีบางส่วนเท่านั้นที่สามารถมาชี้แจงในห้องประชุมใหญ่ได้
โดยพรรคเพื่อไทย มองว่า ควรให้ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละหน่วยงานเข้ามาชี้แจงในที่ประชุมใหญ่ แต่มีกรรมาธิการของรัฐบาลไม่เห็นด้วย โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม ได้ยกเรื่องของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมาอ้าง แต่ทั้งนี้ การพิจารณางบประมาณจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง หากผู้บริหารระดับสูงแต่ละหน่วยงานเข้ามาชี้แจง เพราะแต่ละหน่วยงานมีงบประมาณที่จะต้องพิจารณาจำนวนมาก
"ภายในห้องประชุม ก็มีพื้นที่เพียงพอที่จะให้ผู้บริหารระดับสูงเข้ามาชี้แจงได้ อีกทั้งในชั้นอนุกรรมาธิการทั้ง 9 คณะ ทางผู้บริหารก็สามารถมาชี้แจงด้วยตัวเองทุกคนได้ ดังนั้น ควรจะเปิดโอกาสให้หัวหน้า หรือผู้บริหารหน่วยงานนั้นๆได้เข้ามาชี้แจงในห้องกรรมาธิการชุดใหญ่" นายประเสริฐ กล่าว