นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2565 เปิดเผยว่า ในการพิจารณางบประมาณในวันนี้ แม้กองทัพเรือ (ทร.) จะถอดงบจัดซื้อเรือดำน้ำออกไป แต่กองทัพเรือยังมีโครงการอย่างอื่นอีก ทั้งโครงการอากาศยานไร้คนขับบินชายฝั่ง, โครงการก่อสร้างศูนย์วิทยุควบคุมเรือดำน้ำอีก 300 ล้านบาท, เรือเอนกประสงค์วงเงินกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตโควิดในปัจจุบัน ประชาชนอดอยาก มีคนไร้บ้านจำนวนไม่น้อย
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การขอรับงบประมาณของกองทัพอื่น ทั้งกองทัพเรือ กองทัพบก หรือกองทัพอากาศ ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะยังมีงบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อีกจำนวนมาก ดังนั้น กรรมาธิการสัดส่วนพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่เพียงแค่ตรวจสอบการของงบประมาณของกองทัพเรือเท่านั้น แต่จะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบในงบประมาณของกองทัพบก และกองทัพอากาศด้วย
"งบประมาณของกระทรวงกลาโหมในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่จำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ควรตัดทิ้งออกไป ไม่เพียงแค่ชะลอ ตนจะเอาชีวิตเข้าแลกในการตรวจสอบงบกองทัพ" นายยุทธพงศ์ กล่าว
ด้านนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ จากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มีการหยิบหยกประเด็นของการจัดซื้อเรือดำน้ำมาโจมตีรัฐบาลนั้นว่า ทุกคนมีสิทธิและทางรัฐบาลก็พร้อมน้อมรับ รัฐบาลต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ข้อมูลตรงไหนไม่ถูกต้อง รัฐบาลก็ต้องออกมาชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น คนที่เข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องการจัดหาวัคซีน หรือการไม่เข้าร่วมในโครงการ COVAX เป็นต้น ส่วนกรณีที่ทางฝ่ายการเมืองบางฝ่ายออกมาโจมตี แสดงเอกสารลับต่างๆ ตนคาดว่าคงจะถูกฟ้อง และต้องถามว่าเอกสารลับที่นำมาแสดงต่อสื่อมวลชนเป็นปี พ.ศ.ไหน เท่าที่ตนทราบมาเห็นว่าเป็นปี 2563
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าหากไม่จัดซื้อเรือดำน้ำจะทำให้สามารถจัดสรรซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มากพอนั้น ตนในฐานะประธานคณะอนุกมธ. เห็นว่าการพูดเช่นนี้คงไม่เป็นธรรมนัก เพราะระบบกลไกของงบประมาณฯ ไม่ได้ตัดงบตรงนั้นแล้วไปเพิ่มตรงนี้ได้เลย และเชื่อว่า หากหลายภาคส่วนไม่สบายใจในเรื่องของการจัดซื้อเรือดำน้ำ แม้ว่าความจำเป็นของกองทัพเรือยังจำเป็นอยู่ แต่ในเมื่อสถานการณ์ของประเทศยังไม่จำเป็น และทางกองทัพเรือยังพอจะบาดเจ็บแทนประชาชนได้ ทางกองทัพเรือก็พร้อมจะชะลอ
สำหรับการพิจารณางบประมาณของกระทรวงกลาโหมในวันนี้ นายสรวุฒิ กล่าวว่า เป็นการพิจารณางบประมาณของกระทรวงกลาโหมในภาพรวม ไม่ได้เจาะจงไปที่การจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นพิเศษ และจะมีการตัดสินใจอีกครั้งในเรื่องการปรับลดรายการในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ซึ่งในเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีการสั่งยกเลิกไปแล้ว