พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ในวันศุกร์ที่ 12 ต.ค.นี้จะมีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดที่อยู่ด้านในของประเทศ และไม่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน โดยคาดว่าจะเหลือพื้นที่ที่ยังคงประกาศใช้กฎอัยการศึกประมาณ 26-27 จังหวัด จากขณะนี้มีทั้งหมด 35 จังหวัด
สำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึกในส่วนของจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดนจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง โดยจะต้องดูปัญหาด้านความมั่นคงและปัญหายาเสพติดเป็นหลัก
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เป็นไปได้ที่จะประกาศลดพื้นที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกลงก่อนที่จะมีการตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง โดยหลังจากสมช.ให้ความเห็นชอบแล้วก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าพิจารณาต่อไป
"พื้นที่ที่อยู่ตามแนวชายแดน หรือพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องยาเสพติตคงต้องพิจารณาก่อน แต่การประชุมสมช.วันศุกร์นี้ คงจะได้ข้อสุรปเบี้องต้นก่อนให้ที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าพิจารณา" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ที่ยังคงมีอยู่แม้ในช่วงนี้จะตรงกับเดือนรอมฎอนที่เป็นช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิมนั้น อาจเป็นเพราะมีการตีความหลักศาสนาไปในทางที่ผิดจากที่เคยเชื่อกันว่าผู้ที่ตายในเดือนนี้จะถือว่าเป็นช่วงที่ดี ทั้งนี้ยืนยันว่าหน่วยงานของรัฐได้เฝ้าระวังทุกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ยอมรับว่ายังคงมีจุดบอดอยู่บ้างในบางพื้นที่
"ในหลักศาสนา(อิสลาม) คนที่เสียชีวิตเดือนนี้(เดือนรอมฎอน)เป็นเดือนดี และอาจจะมีการอบรมผู้ก่อเหตุไปในทางที่ไม่ถูกต้อง" พล.อ.สนธิ กล่าว
ส่วนการตรวจพบวัถตุระเบิดหลายลูกเพื่อเตรียมจะก่อเหตุในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ได้มอบนโยบายกับเจ้าหน้าที่ให้พยายามจำกัดพื้นที่ก่อเหตุไม่ให้ขยายวงออกไปจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้หน่วยที่ปฏิบัติงานต้องพยายามควบคุมสถานการณ์ไว้ให้ได้ ส่วนที่มีการตรวจพบระเบิดจริงหรือไม่นั้นจะต้องตรวจสอบกันอีกครั้ง
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--