นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้ผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรือชุมนุมทางการเมือง ห่วงใยความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว ชุมชนและบุคคลอื่นทั่วไป รวมทั้งยังมีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่องการห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 9 ได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในข้อกำหนดของการบริหารสถานการณ์ในฉุกเฉิน ห้ามการรวมกลุ่มและจำกัดการเคลื่อนที่ของบุคคล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนตลอดว่า การที่มีบุคคลจำนวนมากมารวมตัวยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพร่/รับเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาจจะนำปสู่การแพร่ระบาดในครอบครัวหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น ทำให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอยืนยันว่า ประชาชนยังคงมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง อย่างสุจริต และยังสามารถแจ้งข้อร้องเรียนเบาแสะการกระทำผิดถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ผ่านช่องทาง 1111 ด้วย
"อยากขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุมรวม ทั้งผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมอีกครั้ง ให้คำนึงถึงประเทศชาติ และความพยายามของทุกฝ่ายในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพราะทุกคนคือคนไทย และขอขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการต่าง ๆ ที่ทางศบค.ประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้" นายอนุชากล่าว