นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งสุดท้ายวันนี้ของ กมธ. ซึ่งใช้เวลารวม 30 วัน คิดเป็น 270 ชั่วโมง รวมหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 20 กระทรวง, 5 กลุ่มหน่วยงาน, 29 กองทุน, 11 แผนบูรณาการ คิดเป็น 100% จากงบประมาณ ทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท โดยกมธ.ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก 16,362 ล้านบาท
ที่ประชุมได้มีมติให้นำงบประมาณในส่วนนี้ ไปไว้ในงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้รัฐบาลนำงบประมาณในส่วนนี้ไปช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน
โดยในการพิจารณางบประมาณ กมธ. ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอันดับแรก เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้ และเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไข รวมทั้งเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละหน่วยงานมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ทั้งนี้ กมธ.ไม่ได้ปรับลดงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด มาตรา 28 สภากาชาดไทย มาตรา 35 และส่วนราชการในพระองค์ มาตรา 36
ในส่วนของงบประมาณที่ปรับลดจำนวน 16,362 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปเป็นงบประมาณในงบกลางนั้น โฆษก กมธ. กล่าวต่อว่า ทางกมธ.งบประมาณได้มีข้อสังเกตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ของรัฐบาล ให้นำไปใช้ในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคตามที่มีการเสนองบประมาณเพิ่มเติมอย่างแท้จริงเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้ในเรื่องอื่น ๆ ดังนั้น ในกระบวนการอนุมัติเพื่อใช้จ่ายงบประมาณในงบกลางของรัฐบาล ควรระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจน เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณ มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ ทั้งนี้เพื่อให้การใช้งบประมาณ มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดย กมธ.จะเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สำหรับการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ซึ่งจะมีการพิจารณาในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ต่อไป