มวลชนเริ่มทยอยเดินทางมาแยกราชประสงค์ ตามที่มีการนัดหมายจัดกิจกรรมคาร์ม็อบของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ คณะราษฎร เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ มวลชนส่วนหนึ่งได้ทยอยนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณบนถนนราชดำริ รวมทั้งหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เต็มพื้นที่ และเริ่มบีบแตรเป็นระยะ ขณะที่มวลชนอีกส่วนหนึ่งเดินเท้าเข้ามากระจายตัวอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยประกาศเริ่มเคลื่อนขบวนเวลา 14.00 น.
ขณะที่เมื่อคืนนี้ ศาลอาญา มีคำสั่งให้เพิกถอนประกัน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร หลังทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราว โดยนายพริษฐ์โพสต์สั่งฝากภารกิจมวลชนเดินหน้าขับไล่รัฐบาลต่อ ส่วนนายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำตัวขอศาลฝากขังหลังจากเข้ามอบตัวตามหมายจับในกรณีร่วมชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปี เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย ที่ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64
เมื่อเวลา 13.35 น. การจราจรบริเวณแยกราชประสงค์เริ่มติดขัด ทั้งบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบ ทั้งขบวนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถกระบะที่ต่างมารวมตัวกัน โดยหัวขบวนเริ่มเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิต ตามด้วยรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่, เครือข่ายคนรุ่นใหม่ นนทบุรี, กลุ่ม people for people ตามด้วยรถกระบะที่มีผู้ชุมนุมชูธงสีแดง เขียนข้อความว่า "ราษฎร"
จากนั้นเวลา 14.00 น. คาร์ม็อบหยุดรอตั้งขบวนบริเวณแยกเพลินจิต ฝั่งขาออก โดยแกนนำประกาศให้รถจักรยานยนต์ขึ้นมาตั้งแถวนำหน้าหัวขบวน ทำให้การจราจรหนาแน่นไปด้วยคาร์ม็อบเต็มพื้นที่ ขณะที่ไฮโซลูกนัท มาพร้อมกับกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มสลิ่มกลับใจขับไล่ประยุทธ์
แกนนำคาร์ม็อบประกาศจุดหมายแรก จะเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปที่ "ซิโนไทย ทาวเวอร์" ซึ่งเป็นของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยกลุ่มคาร์ม็อบใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิท แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกอโศก พร้อมประกาศจะไปทำกิจกรรมหน้าตึกซิโนไทยฯ
ขบวนคาร์ม็อบมาถึงจุดหมายแรก "ซิโนไทย ทาวเวอร์" บนถนนอโศกมนตรี แกนนำกล่าวบนรถขยายเสียงว่า วันนี้กลุ่มคาร์ม็อบได้มารวมกันเพื่อทำกิจกรรม 10 สิงหา ไล่ทรราชย์ นับเป็นการเปิดศึกอีกครั้งหลังจากวันที่ 7 ส.ค. ที่ทางกลุ่มได้เปิดศึกกับกลุ่มเผด็จการไปแล้ว โดยยืนยันว่าไม่เอารัฐบาลเผด็จการ และไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากนั้น แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 บนรถขยายเสียง แล้วประกาศให้คาร์ม็อบมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่ 3 คือ บ้านพักของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
กลุ่มคาร์ม็อบ เดินทางมาถึงบริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป จำกัด ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในซอยเลิศแก้ว ย่านประชาสงเคราะห์ ในเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นซอยแคบ และเป็นย่านชุมชน ดังนั้น การที่มีขบวนรถจักรยานยนต์เข้ามาในบริเวณพื้นที่และบีบแตรเสียงดัง อาจเป็นการก่อความรบกวนให้กับประชาชนในละแวกนั้น ซึ่งแกนนำก็ได้มีการเข้าไปขอโทษ และพาผู้ชุมนุมเตรียมเดินทางสู่จุดหมายที่ 3 ต่อไป คือคิง เพาเวอร์ ซ.รางน้ำ
ก่อนหน้านั้น ผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมหน้า ธรรมนัส กรุ๊ป ด้วยการนำหุ่นที่จำลองเป็นศพมัดผ้าขาว และมีสีแดงเสมือนเป็นรอยเลือด ไปทิ้งไว้ใต้สะพานข้ามแยก อีกทั้งมีเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีเสียงดังคล้ายประทัดเกิดขึ้น รวมถึงมีการปะทะคารมกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาคอยดูแลสถานการณ์ แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์บานปลาย
จากนั้น แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ม่งหน้าต่อไปยัง คิง เพาเวอร์ต่อไป ซึ่งเหตุผลที่มุ่งหน้าไปจุดนั้น เนื่องจากมีรายงานว่าเมื่อช่วงเหตุการณ์ชุมนุมวันที่ 7 ส.ค. ได้อนุญาตให้ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เข้าไปกบดานอยู่ในสถานที่แห่งนี้
ระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยัง ซ.รางน้ำ ซึ่งเป็นที่ตั้งของคิงเพาเวอร์ ได้ใช้หลายเส้นทางไปยังจุดหมาย ปรากฎว่าผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้เคลื่อนมาถึงหน้าคิงเพาเวอร์ แต่อีกส่วนหนึ่งที่มาทางเส้นดินแดงใกล้กับ ถ.วิภาวดี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) สกัดไว้ด้วยการยิงกระสุนยางขึ้นฟ้า แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่แกนนำได้จัดกิจกรรมหน้าคิงเพาเวอร์เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล จากนั้นได้ประกาศยุติการจัดกิจกรรมเมื่อเวลาประมาณ 17.15 น.แม้วันนี้จะทำไม่ได้ครบทั้งหมดตามจุดหมายที่ตั้ง แต่ยืนยันจะเดินหน้าโดยไม่มีวันหยุดเพื่อขับไล่รัฐบาลทรราชย์ต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะและได้ประชาธิปไตยเต็บใบ พร้อมทั้งแนะนำผู้ชุมนุมเดินทางกลับด้วยการหลีกเลี่ยงเส้นทางดินแดง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมวลชนส่วนหนึ่งที่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดไว้บริเวณแยกดินแดง เกิดเหตุผชิญหน้า โดยมวลชนได้ขว้างปาสิ่งของและเผาป้อมตำรวจ และมีเสียงดังคล้ายประทัดเป็นระยะ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลัง พร้อมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อผลักกันผู้ชุมนุมให้ออกจากที่เกิดเหตุไปทางถนนราชปรารภ และพยายามดับเพลิงที่เกิดขึ้น โดยได้นำรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้ามาในบริเวณดังกล่าวแต่เชื่อว่ามีจำนวนผู้ชุมนุมไม่มากนัก
เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนยังคงเดินหน้ากระชับพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง พร้อมยิงแก๊สน้ำตาและเคลื่อนรถน้ำแรงดันสูง เข้าสู่กลุ่มมวลชนที่ขว้างปาข้าวของและประทัดใส่แนวของเจ้าหน้าที่ ขณะที่มีเสียงดังเป็นระยะ และมีกองเพลิงขนาดเล็กเกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำดับเพลิงดังกล่าวจนสงบลง โดยมีมวลชนจำนวนหนึ่งถอยร่นมาปักหลักกระจายตัวไปบริเวณดังกล่าวทั้งพื้นถนนและบนสะพานลอยข้ามแยกด้วยการเดินเท้าและขับขี่รกจักรยานยนต์ แต่ไม่ได้มีการปะทะกัน เพราะมีระยะห่างกันพอสมควร
ล่าสุดเจ้าหน้าควบคุมฝูงชนกระชับพื้นที่มาถึงบริเวณอนุเสาวรีย์ชัย หลังจากกลุ่มมวลชนถอยร่นมารวมตัวกัน แต่ขณะนี้มวลชนกระจายตัวออกไปทั่วบริเวณที่มีซอกซอยต่าง ๆ ค่อนข้างมาก ทำให้บางตาลงไปมากแล้ว แต่ยังมีเสียงดังเป็นระยะ ซึ่งไม่ชัดเจนว่ามาจากกลุ่มผู้ชุมนุมหรือจากแนวของเจ้าหน้าที่ ขณะที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังและเคลียร์พื้นที่เป็นระยะตามแนวที่เคลื่อนมาตั้งแต่ตอนแรก