พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมคาร์ม็อบในช่วงบ่ายต่อเนื่องเย็นวันที่ 10 ส.ค.64 ว่า กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เชิญชวนให้มีการรวมตัวกันจัดกิจกรรม ในลักษณะมั่วสุมที่มีการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนัดตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่แยกราชประสงค์ จากนั้นเคลื่อนไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแยกอโศก หน้าบริษัทซิโน-ไทย ถนนพระราม 9 ตลอดจนซอยรางน้ำ
โดยไทม์ไลน์ของกลุ่มผู้ชุมนุม มีดังนี้
11.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์
13.00 น. ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าการรวมตัวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
14.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวจากแยกราชประสงค์ ไปบริเวณแยกอโศก มุ่งหน้าไปซิโนไทย ทาวเวอร์ โดยระหว่างเดินทางนั้นได้มีการจุดประทัดยักษ์ พลุไฟ ตลอดเวลา
14.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมถึงหน้าซิโนไทย ทาวเวอร์ จากนั้นได้มีการทำลายทรัพย์สินของสาธารณะประโยชน์และเอกชน บริเวณหน้าตึกชิโน-ไทย
16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางออกจากหน้าซิโนไทย ทาวเวอร์ ไปที่หน้าบ้านของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางจากบ้านของร.อ.ธรรมนัส มุ่งหน้าไปแยกดินแดง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีเจตนาฝ่าฝืนแนวกั้นของตำรวจ เพื่อมุ่งหน้าไปตามถนนวิภาวดี แต่ตำรวจได้ทำการตรึงกำลังเพื่อกันกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง
16.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนเส้นทางจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไปถนนราชปรารภ เข้าซอยรางน้ำ และหยุดที่หน้าบริษัทคิงพาวเวอร์
17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมกลับมาที่แยกดินแดงอีกครั้ง ระหว่างนั้นได้มีการทุบทำลายตู้ยามตำรวจจราจรบริเวณแยกดินแดง และวางเพลิงเผาตู้ยามจราจร
17.05 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติการชุมนุม
17.20 น. ผู้ชุมนุมที่ยังอยู่บริเวณแยกดินแดงได้ทำการขว้างปาสิ่งของ และรวมตัวกันเคลื่อนตัวจากแยกดินแดงไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
18.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทำการทุบทำลายทรัพย์สินทางราชการ บริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
19.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดไฟเผาตู้ยามจราจรตำรวจ สน.พญาไท ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการกระทำดังกล่าว เห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการพยายามฝ่าฝืนแนวกั้นของตำรวจ โดยได้มีการใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขว้างปาด้วยก้อนหิน ก้อนอิฐ เหล็กแหลม ตลอดจนใช้พลุไฟ ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นระยะ การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ก่อให้เกิดความเสียหาย จากพยานหลักฐานที่ปรากฏ จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีเจตนามั่วสุมกันกระทำผิดกฎหมายหลายบท
รอง ผบช.น. เปิดเผยอีกว่า จากการปฏิบัติหน้าที่สลายการชุมนุมในวันที่ 10 ส.ค. พบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรักษาของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โดย ส.ต.ท.วัชรนนท์ ชาวยอง ผบ.หมู่ (จร.) สน.ห้วยขวาง ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ถูกยิงด้วยกระสุนปืนบริเวณต้นขาด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ มีอาการเดินลำบาก แต่ยังกระดกข้อเท้าได้ และตำรวจอีก 3 นาย บาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดแสวงเครื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และรายอื่น ๆ ถูกพลุเพลิงได้รับบาดเจ็บ
ในส่วนของผู้กระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ 6 ราย และยึดรถจักรยานยนต์ของผู้กระทำความผิดได้เกือบ 100 คัน และจะได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดต่อไป