นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านเป็นตัวเลขที่เริ่มสูงกว่าจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ จากการประเมินตัวเลขยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่วันละสองหมื่นกว่าคน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่รู้สึกเป็นห่วงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า การประกาศล็อกดาวน์อาจจะไม่ได้ผลตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่างๆ เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจ และอาจจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ จึงอยากเตือนผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมว่า ขอให้คิดให้ดี มีสติ เพราะการชุมนุมไม่ได้สันติ มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผาทำลายทรัพย์สินราชการ สุดท้ายจะถูกดำเนินคดี
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคไทยสร้างไทย จะยื่นฟ้องดำเนินคดีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมนั้น ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถกระทำได้ แต่ที่ผ่านมาเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลก็เร่งแก้ปัญหาทันที ทั้งการเร่งควบคุมและป้องกันโรค การนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ล้มเหลวในการบริหารจัดการวัคซีน ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม การที่นายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่ใช้การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ใช่ใช้เพื่อควบคุมม็อบอย่างที่นักการเมืองบางคนพยายามบิดเบือนด้วย เพราะถ้านำมาใช้อย่างเข้มงวดกับผู้ชุมนุมจริง สถานการณ์หลายอย่างคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้แน่นอน