พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า บช.น.ได้จัดเตรียมพร้อมกำลังพลในการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้านัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในช่วงบ่ายวันนี้ โดยยืนยันว่าการปฏิบัติการทุกครั้งจะอยู่ภายในกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีการก่อเหตุรุนแรง เช่น การวางเพลิงเผารถยนต์ เผาป้อมสัญญาณไฟจราจร การสะสมอาวุธจำนวนมาก
การชุมนุมที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณแยกดินแดง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ความรุนแรงตอบโต้เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ มีการกระทำผิดเกิดขึ้นในหลายข้อหา ได้แก่ การมั่วสุมตั้งแต่สิบคนก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, วางเพลิงเผาทรัพย์ฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ฯ โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น หนังสติ๊ก, ประทัดยักษ์, ลูกแก้ว, ระเบิดปิงปอง และมีการใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บด้วย
"ไม่ใช่เจอหน้าก็จับกุมทันที การดำเนินการทุกครั้งอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย ถ้าไม่มีเหตุเจ้าหน้าที่คงไม่ไปไล่ตีประชาชน และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็จะสั่งถอนกำลังกลับเข้าที่ตั้ง" พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าว
เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 9 ข้อ 3 ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดฯ บช.น.จึงขอเตือนให้ทราบว่า กรณีการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีบุคคลที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และอาจจะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังบุคคลอื่นๆอีกในวันดังกล่าว จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อจากการไม่รักษาระยะห่างนี้ ซึ่งมีการประกาศที่จะทำกิจกรรมเดินคล้องแขนกัน ซึ่งเป็นการสัมผัสกันโดยตรงแม้จะมีการสวมหน้ากากก็ตาม การทำกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ส่วนการกระทำในลักษณะของการกีดขวางในทางก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และยังอาจมีความผิดในส่วนอื่นๆ ได้แก่ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า ตามที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลมีเดีย ได้มีประกาศนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ และจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิตตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป นั้น
เนื่องด้วยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น มีประชาชนใช้ในการสัญจรเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณรถที่ใช้ทางจึงมีจำนวนมาก เพื่อความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการจราจร โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าเสร็จสิ้นการชุมนุม ดังนี้
1. เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยงรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ
1.1 ถ.พญาไท (แยกพญาไท - อนุสาวรีย์ชัยฯ)
1.2 ถ.พหลโยธิน (อนุสาวรีย์ชัยฯ - แยกสะพานควาย)
1.3 ถ.อโศก - ดินแดง (แยกโบสถ์แม่พระ - แยกสามเหลี่ยมดินแดง)
1.4 ถ.ราชวิถี (แยกสามเหลี่ยมดินแดง - แยกตึกชัย)
1.5 ถ.วิภาวดีฯ (ขาออก) (แยกใต้ด่วนดินแดง - สโมสร ทบ.)
1.6 ถ.วิภาวดีฯ (ขาเข้า) (แยก ถ.มิตรไมตรี - แยกใต้ด่วนดินแดง)
1.7 ถ.ราชปรารภ (แยกมักกะสัน - แยกสามเหลี่ยมดินแดง)
1.8 ซ.พหลโยธิน 2
1.9 ทางลงด่วนอนุสาวรีย์ฯ
1.10 ทางลงด่วนวิภาวดีฯ
1.11 อุโมงค์ข้ามแยกใต้ด่วนดินแดง
2. เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร
2.1 ถ.ศรีอยุธยา
2.2 ถ.เพชรบุรี
2.3 ถ.จตุรทิศ
2.4 ถ.พระราม 6
2.5 ถ.วิภาวดีฯ (ช่องทางด่วน)
2.6 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย
2.7 ถ.ประดิพัทธ์
2.8. ถ.กำแพงเพชร
2.9 ถ.กำแพงเพชร 2
2.10 ทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์)
2.11 ทางพิเศษศรีรัช
2.12 ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ในภาพรวมของ บช.น. ที่ผ่านมาทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 304 คดี ส่งสำนวนให้อัยการหรือสอบสวนดำเนินคดีแล้ว 199 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 105 คดี และจะบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุมมีที่ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ และสร้างข่าวปลอมขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์อย่างเข้มข้น
"ทุกครั้งที่จะมีการชุมนุมก็จะมีการแถลงข่าว นั่นคือการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
ส่วนการจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 15 ส.ค.64 นอกเหนือจากในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วจะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวคู่ขนานในจังหวัดอื่นๆ ไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง