กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองได้นัดร่วมตัวทำกิจกรรมแสดงพลังขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในหลายพื้นที่ตามที่มีแกนนำนัดหมายไว้ โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดรวมตัวผู้ชุมนุมเพื่อจัดกิจกรรมดังกล่าวที่บริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งมีกลุ่มคนเสื้อแดงนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาร่วมขบวนเป็นจำนวนมากจนต้องปิดการจราจรหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ขณะที่นายสมบัติ บุญงามองค์ หรือ บก.ลายจุด ได้เคลื่อนขบวนรถจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามุ่งหน้ามายังบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ส่วนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้นจะมีกลุ่มทะลุฟ้าเป็นแกนนำการชุมนุม นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานลักษระเดียวกันในพื้นที่อื่นๆ เช่น กลุ่มไทยไม่ทนเคลื่อนขบวนบนถนนบางนา-ตราดไปพัทยา, จังหวัดนครปฐมเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมในวันนี้จะเป็นไปโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นไปตามแต่ละเส้นทางที่กำหนดไว้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง หากผ่านจุดที่เป็นโรงพยาบาลก็จะงดใช้เสียงชั่วขณะ โดยหวังว่าหลังประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น.แล้วจะไม่เกิดเหตุรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นด้วยได้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงออกในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเชื่อว่าหากการชุมนุมครั้งนี้เป็นไปโดยสันติจะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากขึ้นในการชุมนุมครั้งต่อไป
"ไม่ได้ปิดโอกาสทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เห็นแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ในอำนาจอีกต่อไป ต้องลาออกจากตำแหน่งโดยทันที" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ เชื่อว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอยู่ในที่ตั้งคอยอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร เพราะการชุมนุมครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขที่ต้องเกิดการเผชิญหน้า ตนเองอยู่เคียงข้างผู้ชุมนุม แต่เห็นว่าควรถอดบทเรียนในอดีต ขณะที่เจ้าหน้าที่ควรแสดงจุดยืนให้เห็นก่อนว่าไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง
หลังเคลื่อนขบวนผ่านไปประมาณชั่วโมงเศษหัวขบวนกลับมาถึงบริเวณแยกราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่คาดว่าการเคลื่อนขบวนครั้งนี้จะจบลงในเวลารวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ราว 3 ชั่วโมง ในระหว่างนี้จะรอท้ายขบวนกลับเข้ามารวมกันเพื่อทำกิจกรรมกดแตรยาวในเวลา 18.00 น. ซึ่งคาดหวังให้การทำกิจกรรมครั้งนี้จบลงอย่างมีพลัง ส่วนกลุ่มทะลุฟ้ายังคงจัดกิจกรรมเคลื่อนขบวนไปฝั่งธนบุรีตามเส้นทางที่กำหนดไว้ โดยทั้งสองจุดมีกิจกรรมบีบแตรเสียงยาวก่อนประกาศยุติการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 17.15 น.เกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกดินแดง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้ใช้แก๊สน้ำตายิงสลายการชุมนุม หลังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยิงหนังสติ๊ก ขว้างปาสิ่งของ ปะทัด และพลุไฟใส่แนวสกัดตู้คอนเทนเนอร์ของ คฝ.บริเวณหน้าบ้านพักของนายกรัฐมนตรีที่ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต
เวลา 17.45 น. คฝ.ได้นำรถฉีดน้ำแรงดันสูงวิ่งขึ้นไปบนทางด่วนขาลงดินแดงแล้วฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยิงหนังสติ๊ก ขว้างปาสิ่งของ พลุไฟ และปะทัดตอบโต้เจ้าหน้าที่
หลังจากประกาศยุติการชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์แล้ว นายณัฐวุฒิได้เดินทางมาพบกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกดินแดง โดยประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอนตัวจากแนวปะทะแล้วแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน เพราะการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อประชาชน เพราะเป็นช่วงใกล้มืดค่ำแล้วอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัย การทำกิจกรรมในวันนี้ทั้ง 3 จุดถือว่าประชาชนประสบชัยชนะแล้ว แต่พื้นที่แยกดินแดงไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่ไดประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยตนเองจะเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์
"เรื่องนี้ไม่ใช่ใจสู้หรือไม่สู้ ใจถึงหรือใจไม่ถึง แต่สถานการณ์นี้ไม่ใช่กิจกรรมคาร์ปาร์ค สถานที่นี้ไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่ได้ประกาศไว้ ขอให้เก็บชัยชนะในวันนี้ไว้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ถึงแม้จะมีกลุ่มผู้ชมนุมบางส่วนยอมเดินทางกลับตามที่นายณัฐวุฒิได้ร้องขอแล้ว แต่ยังคงมีบางส่วนขว้างปาปะทัดและยิงพลุไฟเข้าใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และมีการวางเพลิงเผาป้อมตำรวจที่แยกดินแดงซ้ำอีกครั้ง ซึ่งในการชุมนุมก่อนหน้านี้เคยถูกวางเพลิงไปแล้ว ทำให้ คฝ.ต้องยิงแก๊สน้ำตาจากบนทางด่วนเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมอีก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นออกไปรวมตัวอยู่บริเวณแยกราชปรารภ สักครู่ใหญ่กลุ่มผู้ชุมนุมก็แตกหนีกลับมาแล้วหนีไปทางแฟลตดินแดง เนื่องจากเผชิญหน้ากับ คฝ.ตั้งแถวเคลื่อนกำลังขอคืนพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนแยกดินแดง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยิงแสงเลเซอร์รบกวนและระดมยิงพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ถอยร่นออกไปแต่ยังไม่ยอมสลายตัว