"สิทธิชัย"เสียดายอดร่วมครม."พล.อ.สนธิ"/ชื่นชมปปช.ทำงานมีมาตรฐาน

          นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า การเข้ามารายงานเรื่องการลาออกต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้านี้เป็นการแจ้งถึงเหตุผลที่ต้องขอลาออก โดยการเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 5 นาทีเท่านั้น และเป็นการสนทนากันตัวต่อตัวไม่ได้มีรัฐมนตรีคนอื่นร่วมอยู่ด้วย ซึ่งระหว่างการหารือนายกรัฐมนตรีมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่ได้เคร่งเครียดแต่อย่างใด
          นายสิทธิชัย ระบุว่า ไม่ได้นำเสนอรายชื่อผู้ที่จะมาเป็น รมว.ไอซีที คนใหม่ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ขอความเห็นถึงผู้ที่เหมาะสมจะมานั่งในตำแหน่งนี้แทนเช่นกัน
          โดยก่อนที่จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรี นายสิทธิชัย ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นห่วงการทำงานในรัฐบาลโดยเฉพาะกรณีการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ที่ยังไม่มีมาตรการที่ดีพอที่จะป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น 
          อย่างไรก็ดี ไม่ต้องการให้ทุกคนมองว่าการลาออกของตัวเองในครั้งนี้เป็นการนำร่องในการตัดสินใจลาออกของรัฐมนตรีคนอื่น หรือมองว่าเป็นมาตรฐานที่จำเป็นต้องดำเนินการเช่นนี้ 
          ส่วนกรณีรัฐมนตรีอีก 4 รายที่อาจเข้าข่ายถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้ว่าไม่เหมาะสมในการถือครองหุ้นบริษัทเอกชนเกิน 5% อันจะมีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลนั้น นายสิทธิชัย ไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้เพราะถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล
          "ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นในการลาออก ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว คิดว่าผมไม่ได้นำร่อง ไม่ได้คิดไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นมาตรฐาน เพราะพ่อแม่ผมสอนมาอย่างนี้"นายสิทธิชัย กล่าว
          พร้อมกับยอมรับในคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นคนตรงไปตรงมา และการวิจารณ์ดังกล่าวก็ถูกต้องทุกเรื่อง ทั้งนี้ไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ต้องลาออกจากการทำงานในรัฐบาลชุดนี้ เพียงแต่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำงานร่วมกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ที่จะเข้ามาทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงในเร็วๆ นี้
          "ไม่เสียดายที่ลาออกจาก ครม.ชุดนี้ แต่เสียดายนิดหนึ่ง ที่ไม่ได้ร่วมงานกับ พล.อ.สนธิ" นายสิทธิชัย กล่าว 
          นายสิทธิชัย ยังชื่นชมการทำงานของ ป.ป.ช.ชุดนี้ที่ทำงานด้วยดีและเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหากประเทศไทยมีองค์กรที่เป็นมาตรฐานเช่นนี้การเมืองไทยคงจะดีขึ้นกว่านี้ พร้อมมองว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนไม่มีใครที่มีวาระซ่อนเร้น
          ผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตว่าจะลงเล่นการเมืองหรือไม่ นายสิทธิชัย กล่าวเพียงว่า ไม่ขอเปิดเผยตอนนี้ แต่หลักๆ คงจะไปเขียนหนังสือ หรือเล่นกอล์ฟ รวมทั้งไม่ขอออกความเห็นต่อกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เตรียมเปิดอภิปรายรัฐบาลด้านคุณธรรมและจริยธรรม แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต่างต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
          ล่าสุด นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข ได้เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่อเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่ง นพ.มงคล เป็น 1 ใน 4 รัฐมนตรีกลุ่มหลังที่มีรายชื่อว่าเข้าข่ายว่าไม่เหมาะสมอันเนื่องจากการถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5%