ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมงบกลาง ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอให้มีการแก้ไข ด้วยมติ 326 ต่อ 52 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 4
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้เสนอคำแปรญัตติขอปรับลดงบกลางไว้ 20% ซึ่งการกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณฯ ได้ปรับลดงบประมาณ 1.63 หมื่นล้านบาทไปไว้ที่งบกลาง เพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งตนเองเห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาในสังคม คือ การที่ไม่ไว้วางใจผู้ที่นำงบประมาณไปใช้ ซึ่งตนเองเห็นใจกรรมาธิการเสียงข้างมาก เพราะตัดสินใจยากมาก เพราะวิธีปฏิบัติที่ผ่านมาไม่เคยนำงบที่ปรับลดได้ไปใส่ในงบกลาง และหากนำงบฯไปลงท้องถิ่นเป็นงบอุดหนุนทั่วไป เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ และเมื่อนำลงในพื้นที่ไม่ได้ และรัฐบาลต้องการนำเงินไปแก้โควิด-19 แต่ไม่มีหน่วยรับงบประมาณมารองรับเลย จึงทำให้กรรมาธิการจำเป็นต้องนำไปใส่ในงบกลาง ซึ่งคนที่กำกับดูแลงบกลางคือ นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เพื่อความมั่นใจที่จะนำงบฯ 1.63 หมื่นล้านบาทไปใช้ เราต้องการนำไขแก้ไขปัญหาโควิด -19 และปัญหาที่หนักที่สุดในขณะนี้ คือ ประชาชนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
"เพราะฉะนั้นดีที่สุด สภาแห่งนี้ หลังจากรับงบประมาณก้อนนี้ในงบกลางแล้วเขียนไปในสิ่งที่สภามอบหมายเลยว่า ต้องเอาไปซื้อวัคซีน mRNA ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย เพราะงบกลางเมื่อผ่านตุลาคมแล้วสามารถไปใช้ได้ทันที นี้ผมเศร้ามาก 20 ล้านโดสเพิ่งอนุมัติเงินไปจองแล้วมันจะทันหรือครับ"นพ.ชลน่าน กล่าว
อย่างไรก็ตาม นพ.ชลน่าน อยากให้ นายกรัฐมนตรีมาขอบคุณกรรมาธิการ ขอบคุณสภาที่อนุมัติเงิน 1.63 หมื่นล้านให้กับรัฐบาล และรัฐบาลต้องนำเงินก้อนนี้ไปซื้อวัคซีน mRNA ให้กับคนไทยทุกคน และจะได้ตัดปัญหาการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคทีละ 10 -12 ล้านโดส และเพื่อให้สภาได้ทำหน้าที่ เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง