พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการชุมนุมที่ผ่านมา โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นพื้นที่ต้องสงสัย 4 จุด ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางระเบิดปิงปองรวม 75 ลูก จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเคยมาร่วมชุมนุม และเคยโพสต์ข้อความทางสื่ออนไลน์ว่า "อาวุธครบมือพร้อมบวก"
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลไปจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเผาป้อมตำรวจ สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 ในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ส่วนกรณีที่ครอบครัวของนายธนัต ธนากิตอำนวย หรือไฮโซลูกนัท จะฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นเป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งในส่วนของคดีคงต้องรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นมาจากอะไร หากเป็นแก๊สน้ำตาตามที่มีการกล่าวหา บริเวณบาดแผลก็ต้องมีคราบสารเคมีจำนวนมาก และมีร่องรอยถูกเผาไหม้ ซึ่งขอเวลาให้แพทย์ได้ทำงาน ไม่อยากเร่งรีบเพราะจะเป็นการกดดดันการทำงานของแพทย์ และขอให้แพทย์ได้ทำการรักษานายธนัตก่อน
สำหรับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด และนำหลักฐานที่มีผู้ส่งมาให้มาประกอบสำนวน โดยดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนการเชิญนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำกลุ่ม นปช.มาให้ปากคำในวันที่ 27 ส.ค.64
กลุ่มผู้กระทำผิดอาจมีหลายส่วนในละแวกเดียวกัน จุดที่เชื่อว่ายิงเด็กอายุ 15 ปีที่ลำคอนั้นมาจากโรงแรมปริ้นซ์ตันที่อยู่ด้านหลัง สน.ดินแดง นอกจากนี้กรณีมีภาพผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนหาตัว ซึ่งพอจะรู้ตัวว่าเป็นกลุ่มใด