เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. แกนนำกลุ่มทะลุฟ้าและมวลชนบางส่วน ได้ทยอยเดินทางมารวมตัวบริเวณหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) พร้อมเริ่มกิจกรรมแขวนป้ายผ้าข้อความเป็นภาษาอังกฤษตามแนวรั้วของสำนักงาน และตั้งป้ายบริเวณกระถางต้นไม้บนฟุตบาท และยังมีการนำป้ายข้อความภาษาไทยติดไว้บริเวณป้ายรถเมล์
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ได้มีการตั้งด่าน และนำกำลังมาเสริมบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ พร้อมกับตั้งตู้คอนเทนเนอร์ไว้เป็นแนวป้องกันบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ขณะที่หน้ากองทัพบกมีการนำแผงเหล็กและรั้วลวดหนามปิดถนนด้านหน้าไว้
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการชุมนุมในวันนี้มี 2 จุด คือบริเวณสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ถนนราชดำเนิน และแยกดินแดงในช่วงเย็น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป และยืนยันว่าการชุมนุมในขณะนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดงเมื่อวันที่ 20 ส.ค. พบพฤติการณ์พยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ และรื้อตู้คอนเทนเนอร์ โดยผู้ชุมนุมมีการขว้างปา ลูกแก้ว ลูกหิน พลุ เพลิง ระเบิดปิงปอง ไปป์บอมบ์ ใส่เจ้าหน้าที่ ที่พยายามรักษาพื้นที่ ซึ่งตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุม 26 คน พร้อมตรวจยึดของกลางระเบิดปิงปอง ไปป์บอม และระเบิดแสวงเครื่องได้ 200 ลูก นำตัวส่งดำเนินคดีแล้ว
สรุปการดำเนินคดีในห้วงเดือน ก.ค.ถึงเดือน ส.ค. เป็นเวลา 2 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 807 คดี มีผู้ต้องหาที่ต้องถูกดำเนินคดี 468 คน จับกุมแล้ว 211 คน