ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดที่มีการเปิดเผยในวันนี้ เผยให้เห็นว่า รัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งนำโดยพรรคลิเบอรัล มีคะแนนนิยมร่วงลงอีก ขณะที่เหลืออีกเพียงเดือนเดียวก็จะมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว
โพลล์ดังกล่าว ซึ่งมีการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน แสดงให้เห็นว่า พรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน มีคะแนนนำหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ 16% ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะทำให้พรรคเลเบอร์คว้าชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวตรงกันข้ามกับโพลล์หลายสำนักที่มีการเปิดเผยในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่นายกรัฐมนตรี จอห์น โฮเวิร์ด ซึ่งดำรงตำแหน่งมานาน 11 ปีครึ่ง ประกาศแคมเปญรณรงค์หาเสียงสมัยที่ 5 ของเขาด้วยการจะตัดลงภาษีลง 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
หลังจากนั้น เควิน รัดด์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ก็ได้ออกมาประกาศนโยบายพรรคบ้าง โดยเกทับว่าพรรคของตนจะหักลดภาษี 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย อีกทั้งจะคืนเงินค่าเล่าเรียนคิดเป็นมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ด้วย
นอกจากนี้ เหล่านักวิเคราะห์ประกาศให้รัดด์มีชัยเหนือโฮเวิร์ดในการอภิปรายโต้ที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยโพลล์สำรวจความคิดเห็นของนสพ. "ดิ ออสเตรเลียน" ได้จัดทำขึ้นหลังจากการประกาศนโยบายภาษีของพรรคเลเบอร์ แต่ทำก่อนการอภิปราย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--