นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความพร้อมในการขอเปิดอภิปรายเป็นการทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้คลั่งอำนาจ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้บรรจุคำกล่าวหานี้ไว้ในญัตติ เนื่องจากก่อนหน้านี้รัฐบาลมีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ จึงบริหารงานด้วยความประมาท ไม่สนใจต่อคำทักท้วง แนะนำ หรือตักเตือนของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายกรัฐมนตรีได้รวบอำนาจการใช้กฎหมาย และแก้ไขสถานการณ์ทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง ไม่กระจายอำนาจไปให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องและมีความชำนาญเข้ามาร่วมคิดช่วยแก้ไขปัญหา รวมไปถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้พูดต่อสภาผู้แทนราษฎรว่าในไตรมาส 3/64 คนไทยจะมีวัคซีนเต็มแขน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งที่ผ่านมากระบวนการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด ถูกครหาอย่างมากในเรื่องของคุณภาพและราคาที่ไม่สมเหตุผล
"จากการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ พรรคฝ่ายค้าน ทนเห็นรัฐบาลชุดนี้บริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดล้มเหลวต่อไปไม่ได้ ทนเห็นชีวิตผู้คนต้องเจ็บป่วยล้มตายรายวันไม่ได้ รัฐบาลยิ่งอยู่นาน จึงตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายเป็นการทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น และเชื่อมั่นว่าจะส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
พร้อมระบุว่า รัฐบาลไม่ควรจะคิดมีนอกมีใน เพราะเรื่องนี้คือชีวิตของประชาชน รัฐควรทำด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เมื่อรัฐบาลเคยบอกว่าสามารถชี้แจงตอบคำถามทุกเรื่องได้ ฝ่ายค้านก็พร้อมจะอภิปรายเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยมั่นใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลแน่นอน