กลุ่มคาร์ม็อบ นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นัดรวมตัวเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่ง
โดยวันนี้มีการนัดหมายรวมตัวกันบริเวณสะพานข้ามคลองบางบัวมุ่งหน้าแยกเกษตรศาสตร์ ไปตามเส้นทางแยกแคราย สะพานพระนั่งเกล้าฯ ขึ้นวงแหวนเข้าถนนราชพฤกษ์ เข้าถนนชัยพฤกษ์ มุ่งหน้าสะพานพระราม 4 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ ผ่านสวนสมเด็จฯ จังหวัดนนทบุรี แยกบ้านกลาง มหาวิทยาลัยปทุมธานีและยุติขบวนที่สวนเทพปทุม โดยจะมีการปราศรัยต่อ
นายณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากคาร์ม็อบวันนี้ จะมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องและจะมีการแสดงพลังครั้งใหญ่ภายในไม่กี่วันข้างหน้า โดยจะมีการอภิปรายไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ โดยประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการออกมาแสดงพลังให้พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบ และ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ตระหนักว่าในฐานะผู้แทนราษฎรจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ หรือจะเลือกประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ มองว่าเป็นไปด้วยความคึกคักและสังเกตว่าในทางปริมาณมีจำนวนขบวนรถที่เพิ่มขึ้น แต่ในทางคุณภาพยังต้องพิสูจน์ว่า เดิมพันครั้งนี้ระหว่างการออกมาของประชาชนทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด กับ พล.อ.ประยุทธ์ ฝ่ายใดจะได้รับชัยชนะ
"เบื้องต้นจะรอผลสรุปจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ก่อน เพราะนี้เป็นสถานการณ์ที่อำนาจของรัฐบาลประยุทธ์ขาดความชอบธรรมอย่างถึงที่สุด และเป็นภาวะที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังส่งเสียงว่า ไม่รับอำนาจ และการบริหารของรัฐบาลนี้แล้ว" นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิ ย้ำด้วยว่าสถานการณ์เมืองในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ไป ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ และขบวนนี้มีแนวทางชัดเจน ไม่ลุย ไม่บวก ไม่ปะทะ แต่ไม่ลดละการขับไล่ โดยหลังจากวันนี้จะมีการประกาศนัดหมายชุมนุมใหญ่อีกครั้ง
"ผมขอท้าทายหัวใจของ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล คนที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งของประชาชน เมื่อประชาชนตายเกินหมื่น ป่วยเกินล้าน ประชาชนพินาศ วอดวายกันขนาดนี้ หากทั้งยังยกมือให้พล.อ.ประยุทธ์อีก ก็ให้รู้กันไป" ณัฐวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ ได้นัดรวมมวลชนวันที่ 2 ก.ย.นี้เพื่อแสดงพลังขับไล่นายกรัฐมนตรี สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม พบกันที่บีทีเอสอโศก และจะรวมตัวกันไปถึงวันอภิรายไม่ไว้วางใจ และจะจัดคาร์ม๊อบจนกว่าพล.อ.ประยุทธ์จะออกไป จากนั้นก็ประกาศยุติการชุมนุม