สภาคองเกรสสหรัฐเตรียมห้ามขายบุหรี่ในอาคารรัฐสภา เล็งเก็บภาษีเพิ่ม

ข่าวต่างประเทศ Sunday November 11, 2007 16:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สภาคองเกรสสหรัฐเตรียมห้ามการซื้อขายยาสูบในอาคารรัฐสภา รวมทั้งเพิ่มภาษีสรรพสามิตบุหรี่ให้สูงยิ่งขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมยาสูบเคยเป็นยักษ์ใหญ่ที่ล็อบบี้พระราชบัญญัติภาษี แต่ขณะนี้กำลังทำงานอย่างเงียบๆเพื่อค้านร่างพรบ.ฉบับนี้
ส.ส.คนสำคัญๆหลายคนกล่าวว่า ขณะนี้พวกเขาไม่ได้ติดต่อกับล็อบบี้ยิสต์ยาสูบแต่อย่างใด และทั้งสภาสูงและสภาล่างต่างก็ส่งสัญญาณว่า เต็มใจที่จะขึ้นภาษียาสูบ หากสามารถแก้ไขปัญหาพระราชบัญญัติสุขภาพเด็กอื่นๆ
"ผมคิดว่า อุตสาหกรรมยาสูบพยายามทำเรื่องต่างๆอย่างเงียบเชียบมากขึ้นแต่ก็ใหญ่โตด้วย เพราะพวกเขาตระหนักดีว่า ภาษียาสูบเป็นเรื่องยอดฮิตแค่ไหน" รอน พอลแล็ค ผู้อำนวยการบริหารแฟมิลี่ส์ ยูเอสเอ กล่าว ซึ่งทางกลุ่มสนับสนุนการเพิ่มเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการประกันสุขภาพเด็กของรัฐบาล ซึ่งการเก็บภาษียาสูบสูงขึ้นจะนำมาสนับสนุนเงินในโครงการนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีบุช คิดจะวีโต้พระราชบัญญัติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพยายามเสนอ เนื่องจากเป็นการเก็บเงินภาษีสรรพสามิตบุหรี่เพิ่ม 61 เซนต์ต่อซองทำให้ทั้งหมดคิดเป็น 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อซอง โดย ฟิลิป มอร์ริส ยูเอสเอ บริษัทผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่สุดของประเทศ สนับสนุนเว็บไซต์ จดหมาย และเบอร์โทรศัพท์ไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนเรียกร้องให้สภาคองเกรสสนับสนุนการวีโต้ของ บุช โดยระบุว่า "เก็บภาษีผู้สูบบุหรี่เป็นเรื่องอยุติธรรม" พร้อมอ้างว่า รัฐบาลได้ขึ้นภาษีขายบุหรี่มาแล้ว 73 ครั้งนับแต่ปี 2543 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์หลายคนมองว่า ความวิตกกังวลเรื่องสุขภาพได้บดบังอิทธิพลของอุตสาหกรรมยาสูบในสภาคองเกรส ซึ่งอุตสาหกรรมนี้ให้เงินกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์แก่แคมเปญรณรงค์และผู้ลงสมัครเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ซึ่งคิดเป็นอันดับที่ 64 ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆทั้งหมด โดยเมื่อ 1 หนึ่งทศวรรษที่แล้วพวกเขาให้เงินสนับสนุน 10.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือรั้งอันดับที่ 26

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ