นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาโควิด-19 และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข จากความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด-19 และบริหารผิดพลาด เกิดจากความไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหา การสั่งการไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นจริง นอกจากนั้นยังรวบอำนาจ และนำนายทหารมาเป็นหมอรักษาโรค จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แก้ปัญหาโควิด-19 ไม่ได้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
ส่วนกรณีที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลาง ส.ค.นั้น เชื่อว่ามีการปั้นตัวเลข เพราะมีการตรวจน้อยลง ส่งผลให้พบผู้ติดเชื้อน้อยลงไปด้วย
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เรื่องที่จะเอาผิดกับพล.อ.ประยุทธ์ได้ ประกอบด้วยข้อกล่าวหาที่ 1 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และไม่สุจริต มีพฤติกรรมฉ้อฉลทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้อสั่งการนายกฯ เช่น ข้อสั่งการนายกฯ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ที่ระบุว่าประชาชนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนทุกคนต้องได้ฉีด ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 กรณีการฉีดวัคซีน การรักษาพยาบาล ไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการบริการสาธารณสุขของรัฐ และการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำตามข้อสั่งการที่ตนเองสั่งมา
ข้อกล่าวหาที่ 2 ทำระบบสาธารณสุขล้มเหลว ล้มละลาย และ ข้อกล่าวหาที่ 3 เลือกปฏิบัติ ไม่สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน จงใจเจตนาปิดกั้นวัคซีนตัวอื่นๆ และ ข้อกล่าวหาที่ 4 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติ ครม. รวมทั้งข้อสั่งการของนายกฯ ในการจัดซื้อชุดตรวจ ATK พบว่ามีเจตนาพิเศษปรับเปลี่ยนข้อสั่งการเพื่อเดินหน้าการประมูล ATK ที่มีปัญหา
ทั้งนี้ ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้นจะยื่นข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบและส่งฟ้องดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะส่อทุจริตและขัดรัฐธรรมนูญ
"พฤติกรรมที่พลเอกประยุทธ์ทำแบบนี้ หนี้มั่นคง จนมั่งคั่ง ตายอย่างยั่งยืน"นพ.ชลน่าน กล่าว