พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยันว่า รัฐบาลเดินหน้าประเทศใน 120 วันตามที่เคยแถลงไว้ โดยได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของภูเก็ตแซนบ็อกซ์ และมีการขยายการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดโดยรอบ และคนในพื้นที่มีความพอใจและได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ โดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า แผนเปิดประเทศยังเป็นไปตามที่เคยระบุไว้คือ ในเดือนตุลาคมแต่ถ้าทำไม่ได้ก็ทำเป็นเซคเตอร์ไปก่อน การท่องเที่ยวไม่ว่าจะเปิดเท่าไหร่ก็ตาม หากยังมีการแพร่ระบาดนักท่องเที่ยวก็เข้ามาน้อยลงอยู่แล้ว แต่ประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายสำคัญการในการเดินทางมาท่องเที่ยว โดยนำเอาภูเก็ตเป็นแบบอย่าง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดไม่มีประเทศไหนที่มีการขยายตัวเศรษฐกิจที่สูงขึ้น ซึ่งในส่วนของรัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือมาโดยตลอดทั้ง การลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระหนี้ ส่วนเรื่องค่าโง่ต่างๆ เป็นเรื่องที่รัฐบาลตนเองเข้ามาแก้ปัญหา และไม่อยากให้ใช้เวทีสภามาหาเสียง แต่ควรมาช่วยกันแก้ปัญหา
ส่วนเรื่องการต่างประเทศ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายให้เกิดความสมดุลกับทุกมหาอำนาจ พร้อมมั่นใจว่า ในเวทีต่างประเทศไม่เคยน้อยหน้ากว่าใคร และได้รับการตอบรับในหลายประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการชุมนุมก็บอกว่าถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าถูกจริง ใครจะไปทำอะไรได้ แต่ไม่สมควรเลยที่มีส.ส.บางคนไปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
"ผมก็กลัวกฎหมาย กลัวเรื่องการทุจริต เพราะมีแบบอย่างมาแล้ว มีคดีมีทุจริตมหาศาล มีหลักฐานชัดเจน ถูกลงโทษติดคุก หนีคดี ท่านไม่ต้องมาขู่ผม เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ผมเคารพเสมอมา อย่าขู่กันบ่อยนัก"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าบอกรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน แต่ต้องหาวิธีเหมาะสมดำเนินการ ไม่ใช่ขออะไรมาได้หมด หลายอย่างอย่าให้ดราม่ามากนัก เอาข้อมูลโชเซียลมาพูด ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลให้ดี และขอให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาลที่แก้ปัญหาที่หมักหมมมานานรวมถึงต้องแก้ปัญหาโควิดด้วย
ส่วนการกู้เงิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีความจำเป็นก็ต้องกู้ แต่กู้มาเพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่างๆ และเมื่อเทียบกับ 6-7 ปีที่แล้ว และรัฐบาลทำโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่าง ไม่ใช่คิดกู้แล้วจะไม่หาเงินมาผ่อนชำระแต่เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งตนเองต้องดูแลคนทั้งประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการของรัฐ
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจะช้า เพราะมูลค่าการท่องเที่ยวส่งผลต่อรายได้ประเทศ ซึ่งในต่างประเทศสถานการณ์โควิดก็ไม่น้อยไปกว่าประเทศไทย
"ในส่วนของเราเสียใจและขอโทษ ถ้าทำอะไรไม่เป็นที่พอใจ ผมลูกผู้ชายพอ ผมไม่ใช่วิธีแยบยลบ่อนทำลายกัน ผมเคารพนับถือหลายท่านเป็นคนดี รักประเทศชาติ แต่หลายท่านรักตัวเองมากกว่า ตื่นเช้ามานึกถึงประเทศจะทำอะไรวันนี้ ถ้าคิดว่าจะทำลายทุกวัน ก็เป็นเรื่องของท่าน"
พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจว่า ภายใน 4-5 ปี โครงสร้างต่างๆที่ทำไว้จะเห็นผล ส่วนเรื่องวัคซีนก็พร้อมฉีดให้ภายในปีนี้ และยืนยันจะได้วัคซีนครบ ซึ่งทั้งโลกไม่อยากให้วัคซีนเป็นสินค้าที่เป็นข้อขัดแย้งทางการเมือง หรือด้อยค่าไปเรื่อยๆ พอมีให้ฉีดก็ด้อยค่า ให้ฉีดใหม่ก็หวาดระแวง อย่าเอาโชเชียลมาสู้กับตนเองแต่ให้เอาข้อเท็จจริงมาสู้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่เคยติดตาม ในแง่ของความสำเร็จในการทำงาน ไม่เคยนำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลก่อนหน้าเลย จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลตนเองด้วย