(เพิ่มเติม) นายกฯ ยืนยันเดินหน้าประเทศใน 120 วัน ยอมรับศก.ฟื้นตัวช้าผลจากโควิด

ข่าวการเมือง Wednesday September 1, 2021 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยันว่า รัฐบาลเดินหน้าประเทศใน 120 วันตามที่เคยแถลงไว้ โดยได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของภูเก็ตแซนบ็อกซ์ และมีการขยายการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดโดยรอบ และคนในพื้นที่มีความพอใจและได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ โดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า แผนเปิดประเทศยังเป็นไปตามที่เคยระบุไว้คือ ในเดือนตุลาคมแต่ถ้าทำไม่ได้ก็ทำเป็นเซคเตอร์ไปก่อน การท่องเที่ยวไม่ว่าจะเปิดเท่าไหร่ก็ตาม หากยังมีการแพร่ระบาดนักท่องเที่ยวก็เข้ามาน้อยลงอยู่แล้ว แต่ประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายสำคัญการในการเดินทางมาท่องเที่ยว โดยนำเอาภูเก็ตเป็นแบบอย่าง

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในช่วงสถานการณ์โควิดไม่มีประเทศไหนที่มีการขยายตัวเศรษฐกิจที่สูงขึ้น ซึ่งในส่วนของรัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือมาโดยตลอดทั้ง การลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระหนี้ ส่วนเรื่องค่าโง่ต่างๆ เป็นเรื่องที่รัฐบาลตนเองเข้ามาแก้ปัญหา และไม่อยากให้ใช้เวทีสภามาหาเสียง แต่ควรมาช่วยกันแก้ปัญหา

ส่วนเรื่องการต่างประเทศ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายให้เกิดความสมดุลกับทุกมหาอำนาจ พร้อมมั่นใจว่า ในเวทีต่างประเทศไม่เคยน้อยหน้ากว่าใคร และได้รับการตอบรับในหลายประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการชุมนุมก็บอกว่าถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าถูกจริง ใครจะไปทำอะไรได้ แต่ไม่สมควรเลยที่มีส.ส.บางคนไปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

"ผมก็กลัวกฎหมาย กลัวเรื่องการทุจริต เพราะมีแบบอย่างมาแล้ว มีคดีมีทุจริตมหาศาล มีหลักฐานชัดเจน ถูกลงโทษติดคุก หนีคดี ท่านไม่ต้องมาขู่ผม เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ผมเคารพเสมอมา อย่าขู่กันบ่อยนัก"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าบอกรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน แต่ต้องหาวิธีเหมาะสมดำเนินการ ไม่ใช่ขออะไรมาได้หมด หลายอย่างอย่าให้ดราม่ามากนัก เอาข้อมูลโชเซียลมาพูด ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลให้ดี และขอให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาลที่แก้ปัญหาที่หมักหมมมานานรวมถึงต้องแก้ปัญหาโควิดด้วย

ส่วนการกู้เงิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีความจำเป็นก็ต้องกู้ แต่กู้มาเพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่างๆ และเมื่อเทียบกับ 6-7 ปีที่แล้ว และรัฐบาลทำโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่าง ไม่ใช่คิดกู้แล้วจะไม่หาเงินมาผ่อนชำระแต่เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งตนเองต้องดูแลคนทั้งประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการของรัฐ

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจะช้า เพราะมูลค่าการท่องเที่ยวส่งผลต่อรายได้ประเทศ ซึ่งในต่างประเทศสถานการณ์โควิดก็ไม่น้อยไปกว่าประเทศไทย

"ในส่วนของเราเสียใจและขอโทษ ถ้าทำอะไรไม่เป็นที่พอใจ ผมลูกผู้ชายพอ ผมไม่ใช่วิธีแยบยลบ่อนทำลายกัน ผมเคารพนับถือหลายท่านเป็นคนดี รักประเทศชาติ แต่หลายท่านรักตัวเองมากกว่า ตื่นเช้ามานึกถึงประเทศจะทำอะไรวันนี้ ถ้าคิดว่าจะทำลายทุกวัน ก็เป็นเรื่องของท่าน"

พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจว่า ภายใน 4-5 ปี โครงสร้างต่างๆที่ทำไว้จะเห็นผล ส่วนเรื่องวัคซีนก็พร้อมฉีดให้ภายในปีนี้ และยืนยันจะได้วัคซีนครบ ซึ่งทั้งโลกไม่อยากให้วัคซีนเป็นสินค้าที่เป็นข้อขัดแย้งทางการเมือง หรือด้อยค่าไปเรื่อยๆ พอมีให้ฉีดก็ด้อยค่า ให้ฉีดใหม่ก็หวาดระแวง อย่าเอาโซเซียลมาสู้กับตนเองแต่ให้เอาข้อเท็จจริงมาสู้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่เคยติดตาม ในแง่ของความสำเร็จในการทำงาน ไม่เคยนำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลก่อนหน้าเลย จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลตนเองด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลใช้นโยบายการเงินการคลังขนาดใหญ่ เพื่อเยียวยาและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และจากรายงานธนาคารโลก ระดับหนี้สาธารณะของไทยยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และไม่ส่งผลกระทบในระยะปานกลาง ในช่วง 3 ปีขึ้นไป และสภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอ และขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีเฉลี่ยทั้งโลกแตะระดับ 99% แต่ประเทศไทยยังคงรักษาระดับอยู่ที่ 60% เท่านั้น และแม้จะมีการกู้เงินมา แต่ยังรักษาวินัยการเงินการคลัง ซึ่งมีเพดานหนี้ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกอยู่มาก

ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายและภาระหนี้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในมาตรการเยียวยาในหลายโครงการ ซึ่งปริมาณเงินทั้งหมดที่เข้าสู่กระเป๋าประชาชนโดยตรงไปแล้วประมาณ 8.5 แสนล้านบาท ถึงมือประชาชนโดยตรงกว่า 42.3 ล้านคน

"8.5 แสนล้านบาท คือ กว่า 1 ใน 4 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือ 5% ของจีดีพี ในประวัติศาสตร์ไทยไม่มีนายกฯคนไหนช่วยประชาชนได้แบบนี้ ไม่มีผู้นำคนไหนยอมถูกต่อว่า กู้เงินเก่งแล้วเอามาใส่มือประชาชนแบบนี้ 42 ล้านคน คือ มากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศที่ช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง"

ส่วนการบริหารจัดการโควิด-19 รัฐบาลได้เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ต้นปี 2563 แต่ในขณะนั้นการวิจัยและพัฒนายังไม่มีผลสัมฤทธิ์ ซึ่งเมื่อวัคซีนได้รับรองโดยองค์การอนามัยโลก รัฐบาลจึงได้จัดหาวัคซีนเข้ามา ซึ่งไม่ใช่สินค้าตามท้องตลาด เป็นสินค้าฉุกเฉิน หากสั่งวัคซีนวันนี้แล้วได้พรุ่งนี้ ทำไมรัฐบาลถึงไม่อยากทำ เพราะการสูญเสียชีวิตของประชาชนไม่ใช่สิ่งที่ตนเองจะมีความสุขได้ และพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เคยพินอบพิเทาให้กับกลุ่มนายทุนและเจ้าสัว และไม่เคยทำแบบนั้นกับใคร เพราะตนเองมีศักดิ์ศรี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ