น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข โดยย้ำถึงความผิดพลาดในการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า ถึงแม้ทางการจีนจะออกมายืนยันว่าวัคซีนซิโนแวคไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้ แต่รัฐบาลยังดึงดันที่จะสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเข้ามาใช้งานอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมามีการอนุมัติงบสูงกว่าราคาที่จัดซื้อได้จริง ไม่ได้เป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ตามที่มีการกล่าวอ้าง อีกทั้งยังจัดซื้อในราคาที่สูงกว่าประเทศอื่นเฉลี่ยโดสละ 100 บาท
"ฝ่ายค้านไม่ได้ด้อยค่าวัคซีน แต่รัฐบาลกำลังด้อยค่าชีวิตของประชาชน...นายกรัฐมนตรีควรนำเอกสารมาชี้แจงข้อสงสัยในทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านหยิกยกขึ้นมา" น.ส.จิราพร กล่าว
ขณะที่การสั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าก็เป็นการแทงม้าตัวเดียว โดยตั้งความหวังไว้กับผู้ผลิตเพียงรายเดียว ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการ COVAX จนทำให้ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน แต่ต้องไปซื้อวัคซีนในราคาที่สูงกว่าการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ผลจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาล ทำให้ระบบเศรษฐกิจเสียหายและล่มสลาย มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลพยายามนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับประเทศที่มีสถานการณ์แย่กว่า และไม่ยอมรับว่าไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างมหาศาล
"ท่านไม่ได้ลงมือฆ่า แต่ท่านปล่อยให้เขาตาย ไม่ได้ตายเพื่อสังเวยโรคร้าย แต่สังเวยจากการผิดพลาดในการบริหารงาน" น.ส.จิราพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการอภิปรายของ น.ส.จิราพร เกิดการประท้วงจากนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่าเป็นการอภิปรายซ้ำซากกับผู้อภิปรายก่อนหน้านี้ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงไปแล้ว ทำให้มี ส.ส.เพื่อไทย ประท้วงว่านายศุภชัย พยายามก่อกวนการอภิปราย