น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเพื่อตนเองและพวกพ้อง อยู่เบื้องหลังบริวารและพวกพ้องในการสร้างความเสียหายแก่ประเทศ โดยพุ่งเป้าไปที่กรณีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหม กองทัพอากาศ ในปีงบประมาณ 2564
เบื้องต้นพบว่ามีการส่อทุจริตการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใสในโครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพอากาศ รวม 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องกันทางอากาศ ระยะที่ 7 2.โครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ และ 3.โครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา งบลงทุนของกระทรวงกลาโหมจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่จะต้องอยู่ภายใต้หลักการให้เงินงบประมาณกลับมาหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจของประเทศ เช่น เกิดโอกาสการสร้างความรู้ความสามารถ และถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่อุตสาหกรรมไทยและแรงงานไทย, การสร้างนวัตกรรมในการดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน การให้โอกาสในการสร้างความรู้ความสามารถของบุคลากร และสร้างความชำนาญ พัฒนาฝีมือแรงงานไทย และการให้โอกาสภาคอุตสาหกรรมไทยในการพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการส่งออก เป็นต้น
แต่ภายหลังจากเดือน ต.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ ได้เห็นชอบการคัดเลือกกำลังพลขึ้นเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใหม่ ได้มีการปรับปรุงกระบวนการและวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อจัดจ้าง ออกคำสั่งรื้อโครงการผ่านฝ่ายเสนาธิการทหารอากาศที่เป็นผู้มาช่วยราชการ และปรับเปลี่ยนทีโออาร์ที่ส่อว่าจะขัดกับหลักกฎหมาย
"นายกรัฐมนตรี กลับเห็นชอบให้คนนอกกองทัพ เข้ามากำกับในสาระสำคัญของโครงการจัดซื้อ ซึ่งเคยเป็นโครงการดีๆ ในอดีตที่หนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ให้คนได้มีงานทำ มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ท่านกลับทำให้คนที่เขาทำงานเพื่อประโยชน์ประเทศชาติหมดกำลังใจ หมดความเชื่อถือ" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว