พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อข้อกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่ารัฐบาลค้าความตาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นธรรม ไม่ใช่ดูเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสะสม ควรจะดูจำนวนผู้ที่รักษาหายที่มีสัดส่วนมากถึง 85% ด้วยความร่วมมือและทุ่มเทจากทุกคนที่ช่วยให้สามารถช่วยรักษาชีวิตของประชาชนได้มากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของโลกถึงสองเท่า
รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมโรคให้สมดุลจนกลายเป็นโรคประจำถิ่น เพราะคงไม่สามารถที่จะทำให้โรคนี้หายไปได้ เราไม่อาจตกอยู่ในความหวาดกลัวจนไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย หรือดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิม ต้องปรับตัวหามาตรการที่จะทำให้สามารถใช้ชีวิตด้วยความปลอดภัยจากโควิด-19
สำหรับช่วงเวลา 4 เดือนหลังจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการเพิ่มการจ้างงาน โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึง ลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะการดูแลกลุ่มเปราะบาง การช่วยเหลือดูแลปัญหาเรื่องหนี้สินของประชาชน สถานการณ์ปีนี้ถือว่ามีความม้าทายในการประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศจากวิกฤตโควิด-19 เราทุกคนควรใช้โอกาสนี้ผลักดันการพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป รวมไทยสร้างชาติเพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
โดยรัฐบาลมียุทธศาสตร์ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ ได้แก่
1.การต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานและโครงการลงทุนในภูมิภาค ซึ่งในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาการลงทุนภาครัฐมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.9% ครอบคลุมโครงสร้างถนน สนามบิน ท่าเรือ ระบบพลังงาน โครงการอีอีซี
2.การลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดสภาวะโลกร้อน เช่น เพิ่มสัดส่วนการใช้รถพลังงานไฟฟ้า 30% ในปี 73, การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน, โครงการ BCG, เพิ่มการปลูกป่าจาก 31% เป็น 40% ภายในปี 79
3.ต่อยอดอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็ง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมการแพทย์ เกษตรแปรรูป การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
4.ส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต เช่น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลในภูมิภาค อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ หุ่นยนต์
5.ส่งเสริมเอสเอ็มอีเพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้า ให้เข้าถึงสินเชื่อ เข้าถึงตลาด และเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่คาดว่าจะสร้างมูลค่า 42% ของจีดีพี และเพิ่มการจ้างงาน 12 ล้านคน
6.ปฏิรูปการบริหารงานภาครัฐ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้ได้รับจากนานาชาติ การปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูประบบการศึกษา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยินดีที่จะรับข้อเสนอแนะทั้งหมดไปปรับปรุงการทำงานที่ยังมีข้อบกพร่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน โดยจะเดินหน้าทำงานให้ดีที่สุดโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ เพราะเชื่อว่าฟ้าหลังฝนจะสดใสเสมอ