นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เชื่อว่า การลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกคนต้องทำการมติพรรค โดยมั่นใจว่าเสียงสนับสนุนรัฐมนตรีแต่ละคนจะเท่ากัน และตนเองก็พูดชัดเจนแล้วว่าถ้าไม่เลือกคนอื่นก็ไม่ต้องเลือกตน
ส่วนกรณีที่เคยมี ส.ส.โหวตสวนมติพรรค 2-3 คนนั้น คราวนี้ได้พูดคุยกันแล้ว ขอให้รอดูมติก็แล้วกัน ในเมื่อมีข้อบังคับพรรคอยู่ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น เราเป็นกลุ่มก้อนอยู่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีวินัย ทุกคนรักษาวินัยไว้
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ย้ำว่า เสียงของพรรคชาติไทยพัฒนาจะไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 12 เสียงจะมอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีทุกคนเท่าๆ กัน เพราะฟังการชี้แจงไม่มีอะไรติดใจและพอใจกับการชี้แจงทั้งนายกฯ และรัฐมนตรี ดังนั้นในส่วนของพรรคพูดคุยกันแล้วไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีที่มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งหลังการอภิปรายนั้น วันนี้ทางพรรคไม่มีการพูดคุยกัน เพราะวันนี้เรามีภารกิจที่ทำอยู่โดยจะขอทำเต็มที่ หากมีสัญญาณปรับ ครม.ก็ว่ากันอีกทีวันนี้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานก่อน รวมทั้งการเกลี่ยสัดส่วนของพรรคก็เช่นเดียวกัน เอาไว้ให้ปรับจริงๆค่อยหารือกัน เพราะวันนี้ยังไม่มีเหตุ หากตีตนไปก่อนไข้มีแต่ทำให้สับสน
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันจะไปในทิศทางเดียวกัน และพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนปัญหาในพรรคอื่น พรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่อาจมีขึ้นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขอให้ผ่านไปทีละเรื่อง ตอนนี้รัฐบาลยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ละพรรคคงไปบริหารจัดการกันเอง ส่วนตัวยังคงมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลที่ทุกคนต่างต้องเกื้อกูลสนับสนุนกัน เพราะเราทำงานด้วยกัน ยกเว้นใครกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ
ส่วนที่ตนเองถูกกล่าวหาจากพรรคฝ่ายค้านก็ได้ชี้แจงทุกประเด็นไปแล้ว หากยังมีข้อสงสัยก็พร้อมที่จะแถลงชี้แจงเพิ่ม โดยเฉพาะใบเสร็จการจัดซื้อวัคซีนที่ฝ่ายค้านขอมา ตนเองก็จะดำเนินการขอเอกสารจากองค์การเภสัชกรรม พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีเงินทอนตามที่ถูกกล่าวหา มีหลักฐานพร้อมยืนยันได้และชี้แจ้งไปหมดแล้ว แต่ตอนสรุปฝ่ายค้านยังหยิบเรื่องเงินทอนมาพูดอีก แบบนี้ไม่ต่างอะไรจากขี้แพ้ชวนตี