พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า เมื่อคืนนี้มีการก่อเหตุวุ่นวายจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีพฤติกรรมแฝงตัวเป็นผู้อยู่อาศัยในแฟลตดินแดง เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปติดตามจับกุมในเขตที่พักอาศัยจนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่ง ผบช.น.มีนโยบายชัดเจนแล้วว่า หากไม่ใช่เหตุจำเป็นจะไม่มีการเข้าไปในเขตที่พักอาศัย แต่จะมีการจัดเก็บหลักฐานแล้วติดตามจับกุมมาดำเนินคดีในภายหลัง
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่นำเครื่องหมายและเครื่องแบบของบุคลากรทางแพทย์หรือสื่อมวลชนมาใช้เพื่อแฝงตัวก่อเหตุรุนแรงด้วย ก่อนหน้านี้สามารถจับกุมการนำยานพาหนะมาใช้เป็นรถพยาบาลแล้วซุกซ่อนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาก่อเหตุ ขณะที่การดูแลผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมนั้นได้มีการประสานโรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัยให้เข้ามาดูแลอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว
"บช.น.จะได้ประชุมร่วมกับผู้นำชุมชนเพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้มีผู้แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุ เพราะรู้ข้อจำกัดว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ติดตามจับกุมในเขตที่พักอาศัย จึงแฝงตัวเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่...มีการใช้คราบความเป็นบุคลากรทางแพทย์ไปปั่นกระแสถือเป็นเรื่องน่าละอายมาก เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรเลย มีแต่กล้องเข้ามาถ่ายคลิป" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
โฆษก บช.น. กล่าวว่า การชุมนุมที่แยกดินแดงที่รวมตัวกันในเวลา 17.30 น.มีการขว้างปาสิ่งของ ระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดปิงปอง ใส่สถานที่ราชการและบ้านเรือนของประชาชน มีการทุบทำลาย วางเพลิงทรัพย์สินราชการและประชาชน มีการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ผ่านไปมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดไปดำเนินคดี 3 ราย ส่วนการชุมนุมเมื่อวานนี้ของกลุ่มนายณัฐวุฒิ ที่แยกอโศกมีการปิดการจราจรเพื่อปราศรัย ไม่มีเหตุรุนแรง
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.64 ดำเนินคดีไปแล้ว 177 คดี มีผู้ต้องหา 663 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 406 คน และฝากเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานที่มาร่วมชุมนุม รวมถึงการบิดเบือนข้อมูลจะมีความผิด
โฆษก บช.น.กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมวันนี้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นแกนนำ นัดรวมตัวที่แยกราชประสงค์แล้วจัดกิจกรรมคล้ายคาร์ม็อบเคลื่อนขบวนไปแยกอโศก ส่วนอีกกลุ่มคือทะลุแก๊สนัดรวมตัวที่แยกดินแดง ซึ่งการนัดรวมตัวดังกล่าวจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ และกฎหมายอื่นๆ