นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวยอมรับว่า มีความกังวลการลงมติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม วาระ 3 ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เพราะมีความเป็นไปได้ทั้งที่จะผ่านและไม่ผ่านความเห็นชอบ โดยเฉพาะส.ว.ที่ถือเป็นตัวแปรสำคัญชี้ขาด
นายสุทิน กล่าวว่า ลำพังส.ส.พรรคใหญ่น่าจะไม่ปรับเปลี่ยนท่าที จึงต้องไปลุ้นที่ส.ว.1 ใน 4 หรือ 84 เสียง ซึ่งสัดส่วนเสียงของฝ่ายค้าน 20% ไม่มีปัญหา และเฉพาะส.ส.เพื่อไทยก็เกิน 100 เสียงแล้ว
นายสุทิน ยอมรับว่าสุดท้ายแล้วจะต้องมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันมาก และเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อพรรคการเมือง แต่เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานในการวินิจฉัย
ส่วนเหตุผลของนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ที่ไม่มั่นใจว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทันใช้สำหรับการเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ผ่านร่าง เพราะจะทราบได้อย่างไรว่าจะต้องเลือกตั้งเมื่อใด และหากต้องมีการเลือกตั้งก่อนกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ ก็มีทางออกอื่น
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ พรรคได้ให้เอกสิทธิ์ ส.ส.โดยให้ยึดหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์ต่อนักการเมือง หรือพรรคการเมือง พร้อมเชื่อว่า ส.ส.ของพรรคมีวุฒิภาวะ และมีดุลยพินิจตัดสินใจได้ว่าควรลงคะแนนเสียงอย่างไร เพราะเรื่องของรัฐธรรมนูญไม่สามารถบังคับกันได้
ก่อนหน้านี้ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยยังคงจุดยืนที่จะงดออกเสียงลงมติทั้งวาระ 2 และ 3 โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่การแก้ไขเพื่อนักการเมืองและพรรคการเมืองที่ได้ประโยชน์โดยตรง