มวลชนกลุ่มทะลุฟ้าเริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีการนำป้ายผ้าที่เขียนข้อความต่างๆ ขึ้นไปห้อยบนพานแว่นฟ้า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมตั้งเวทีเตรียมการปราศรัยถึงการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดกิจกรรม ART Gallery จากศิลปินที่นำงานมาจัดแสดง, การจำหน่ายคราฟท์เบียร์ เพื่อนำไปสนับสนุนการทำกิจกรรมของกลุ่มทะลุฟ้า และการสกรีนเสื้อ 3 ข้อเรียกร้อง เป็นต้น
ขณะที่บริเวณแยกอโศก ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมารวมตัวกัน พร้อมเตรียมขบวนคาร์ม็อบ โดยจะใช้เส้นทางนานา-พระโขนง-สุขุมวิท โดยจะวิ่งวนไป-กลับ 2 รอบ
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด กล่าวว่า ในวันธรรมดาจะนัดชุมนุมต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยจะใช้เวลาในการปั้นม็อบ 3 ชั่วโมงที่ตอบโจทย์การชุมนุมในสถานการณ์เช่นนี้ให้จุดติดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อสะสมกำลังจนกว่าจะถึงกำหนดจัดม็อบใหญ่ครบรอบ 15 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.นี้ จะมีการจัดกิจกรรมที่บริเวณนี้ไปตลอด
วันนี้จะทดสอบรูปแบบของไบค์ม็อบซึ่งมีคนจำนวนมากมาร่วมกันชุมนุมครั้งนี้ หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดคาร์ม็อบมาแล้ว โดยต้องจัดให้เป็นป้อมค่าย เพราะติดขัดเรื่องเคอร์ฟิวที่ไม่สามารถระดมคนจากต่างจังหวัดเข้ามาได้
"เรากำลังหารูปแบบที่เหมาะสม เพราะเหตุผลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ถ้าไม่ปรับ คนก็จะไม่มา เพราะเรามีสมมุติฐานที่มั่นใจว่าประชาชนไม่เอาประยุทธ์ ถ้าก่อให้ติดก็นัดชุมนุมใหญ่ ถ้าก่อไม่ติดก็ต้องทบทวน" นายสมบัติ กล่าว
ด้านบริเวณแยกดินแดง เกิดเหตุวุ่นวายในกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ซที่จะปักหลักอยู่บริเวณสี่แยกกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่พยายามจู่โจมเข้าใส่เพื่อมาสลายการชุมนุม โดยจับกุมผู้ชุมนุมไปนับสิบราย และยึดรถจักรยานยนต์ไปบางส่วน ขณะที่มีรายงานว่ามีรถกระบะคันหนึ่งพุ่งเข้าสู่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ทำให้มีผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลให้ผู้ชุมนุมรวมทั้งประชาชนที่มาสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณนี้เกิดความไม่พอใจ และตอบโต้ด้วยการยิงพลุ และขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ คฝ. ทำให้เกิดช่วงชุลมุนกันอยู่พักหนึ่ง และพยายามผลักดันให้ คฝ.ออกจากพื้นที่ ซึ่งล่าสุด คฝ.ได้ล่าถอยออกไปอยู่ในที่ตั้ง ภายในกรมดุริยางค์ทหารบก ถ.วิภาวดีฯ ขาออกแล้ว
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ คฝ.ได้จับกุมผู้ชุมนุมไปได้แล้วมากกว่า 10 ราย
โดยเมื่อเวลา 18.50 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้สัมภาษณ์ที่บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก โดยกล่าวถึงปฏิบัติการจู่โจมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมผู้ชุมนุมทะลุแก๊ซ บริเวณแยกดินแดงเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งมีการมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถพุ่งชนเพื่อจับกุมผู้ชุมนุมว่า ถ้าได้ดูเหตุการณ์ตั้งแต่แรก เมื่อผู้ก่อเหตุนัดรวมตัวที่บริเวณใต้ด่วนดินแดง ก็จะออกมาทำพฤติกรรมเดิมๆ ในการก่อความวุ่นวายเพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ก่อนที่ตำรวจจะตัดสินใจปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบก่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเตือนผ่านรถขยายเสียง ที่ตั้งอยู่ภายในกรมดุริยางค์ทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต และอีกส่วนหนึ่งคือการใช้ลำโพงเคลื่อนที่ออกมาประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การปฏิบัติการของตำรวจได้มีการปรับแผน ปรับยุทธวิธีในการจับกุมมาโดยตลอด เรียนรู้จากบทเรียนในอดีตที่ผ่านมาว่าการใช้วิธีการใดจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพได้มากกว่า ซึ่งการเลือกใช้วิธีการใด ย่อมมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนในภาพรวม
แต่อย่างไรก็ดี คงไม่สามารถยินยอมให้ผู้ก่อเหตุออกมาทำลายทรัพย์สินราชการ หรือทรัพย์สินของเอกชนอย่างต่อเนื่องได้ ดังนั้นจึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายไปตามขั้นตอนที่เห็น
"การชน หรือปะทะกันเป็นเรื่องปกติในการจับกุม เวลาจะจับกุม ถ้าตำรวจบอกให้หยุดอยู่เฉยๆ จะหยุดให้จับกันหรือไม่ โดยธรรมชาติของผู้จะถูกจับกุม ก็คงต้องหนี ธรรมชาติของผู้ที่จับกุม ก็คงต้องไล่จับ ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน เป็นยุทธวิธีในการเข้าจับกุม ไม่ใช่ผู้ที่บังคับใช้กฎหมายจะใช้อำนาจหน้าที่ทำร้ายผู้ที่ก่อเหตุ คงไม่ใช่แบบนั้น แต่เป็นการกระทบกระทั่งกันจากยุทธวิธีที่จับกุม...อยากให้มองทุกด้าน เหมือนดูภาพยนตร์ ต้องดูตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ไม่ใช่พอเปิดมาเห็นตำรวจปะทะกับผู้ก่อเหตุ แล้วก็ไปโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ คงไม่ใช่ ทุกอย่างมันมีสาเหตุ" รองโฆษก สตช.ระบุ
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.24 น. มีรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนทั้งเดินเท้าโดยตั้งแนวพร้อมโล่ และขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรวมตัวกันบริเวณหน้าปากซอยตลาดศรีวนิช ก่อนจะถึงสามเหลี่ยมดินแดง เนื่องจากมีรายงานว่าอาจมีตำรวจควบคุมฝูงชนออกมาจากทางแยกรางน้ำ โดยขณะนี้ยังมีฝนตก และมีเสียงดังคล้ายปืนและพลุดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ
นอกจากนี้ มีรายงานว่ามีการจุดไฟเผารถมอเตอร์ไซค์สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่กลางถนน บริเวณหน้าตลาดศรีวนิชด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ซบริเวณใต้ทางด่วนดินแดงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความจำเป็นต้องเข้าระงับยับยั้งเหตุ เนื่องจากกลุ่มทะลุแก๊ซ มีการขว้างปาสิ่งของ พลุ ประทัด ระเบิดปิงปอง ใส่สถานที่ราชการ โรงพยาบาลในละแวกนั้น ก่อให้เกิดความเสียหายโดยรอบบริเวณดินแดง จึงได้ทำการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 15 คน พร้อมของกลางระเบิดแสวงเครื่องและอาวุธจำนวนหนึ่ง
โดยขณะนี้กลุ่มทะลุแก๊ซ ยังมีการก่อเหตุและก่อความวุ่นวายบริเวณสามแยกดินแดง และได้มีการวางเพลิงรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ