นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พ.ศ.... (แก้ไขมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) กล่าวว่า กรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุ ส.ส.พปชร.จะฟรีโหวตแก้รัฐธรรมนูญนั้น แนวทางปฏิบัติของพรรคฯ คือเห็นไปในทิศทางเดียวกันและสนับสนุนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งเป็นแนวทางที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนเช่นกัน
"ส.ส.พรรคพลังประชารัฐมีความเป็นเอกภาพ แต่การลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ส.ส.ทุกคนล้วนมีเอกสิทธิ ดังนั้นพรรคไม่สามารถสั่ง ส.ส.ฐานะสมาชิกพรรค โดยเป็นมติพรรคได้ แต่ที่ผ่านมา ส.ส.ฐานะสมาชิกพรรคมีทิศทางที่ไปทำนองเดียวกัน และจะช่วยดูแลให้ไปในทิศทางเดียวกัน" นายไพบูลย์ กล่าว
ขณะที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมตัวแทนพรรคเล็กร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคพลเมืองไทย พรรคครูไทย พรรคไทรักธรรม พรรคประชาธรรมไท พรรคพลังชาติไทย พรรคเพื่อชาติไทย แถลงจุดยืนว่า กลุ่มพรรคเล็กมีมติโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ด้วยเหตุผลว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ผ่านการทำประชามติจากประชาชนแล้ว อีกทั้งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยกเลิกระบบจัดสรรปันส่วนผสม ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตัวเล็กๆ เข้ามามีโอกาสทำงานในสภา รวมถึงล้มระบบ ส.ส.พึงมีที่ถือเป็นระบบที่ยุติธรรมที่สุดและยังล้มหลักการเรื่องคะแนนเสียงตกน้ำ จากเดิมที่นำมารวมเป็นคะแนนของพรรคการเมืองได้ตกน้ำไป ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 ที่ใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้เห็นว่ารัฐบาลยุค "ทักษิณ-สมัคร-ยิ่งลักษณ์" เกิดเผด็จการรัฐสภา มีการคอร์รัปชั่น เชิงนโยบายมโหฬารอย่างโจ่งแจ้ง
นพ.ระวี กล่าวยืนยันว่า พรรคเล็กมีจุดยืนเรื่องนี้มาโดยตลอด พร้อมปฏิเสธไม่เคยมีการรับผลประโยชน์ที่เรียกกันว่ากล้วย ซึ่งการที่พรรคเล็กกล้าโหวตสวน เพราะพรรคเล็กไม่มีรัฐมนตรีจึงไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
นพ.ระวี กล่าวว่า ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ขอเรียกร้องให้ ส.ส.โหวตคว่ำร่วมกับพรรคเล็ก รวมถึงเรียกร้องให้ ส.ว.คิดให้รอบคอบร่วมโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย เพราะถ้า ส.ว.สนับสนุนไม่ถึง 84 เสียงจะทำให้ร่างนี้ตกไป แต่หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน กลุ่มพรรคเล็กจะร่วมกับพรรคขนาดกลางลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความ
"หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงๆ ขอให้ทำประชามติก่อน ซึ่งพรรคเล็กก็พร้อมสู้ในระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ถ้าผ่านความเห็นของประชาชน" นพ.ระวี กล่าว
สำหรับพรรคเล็กในปัจจุบันมี 9 พรรค โดย 7 พรรคแรก ได้แก่ พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคพลเมืองไทย พรรคครูไทย พรรคไทรักธรรม พรรคประชาธรรมไท พรรคพลังชาติไทย และพรรคเพื่อชาติไทย ไม่สนับสนุนการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ขณะที่อีก 2 พรรค คือ พรรคประชาธิปไตยใหม่ กับพรรคประชาภิวัฒน์ สนับสนุนแนวทางบัตร 2 ใบ
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้หารือแนวทางการโหวตลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 เนื่องจากเป็นเรื่องของส.ส. ที่พรรคการเมืองต้องไปคุยกันเอง ซึ่งหากโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวก็จะเดินหน้าต่อ และถือว่าการพิจารณาแล้วเสร็จ ส่วนใครจะยื่นเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญก็ดำเนินการไป แต่ว่าเมื่อจบกระบวนการก็ต้องทูลเกล้าฯ ประกาศใช้ ดังนั้นให้เป็นเรื่องของทางสภาฯ
ส่วนหากมีการคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น จะถือว่ารัฐบาลไม่ทำตามนโยบายที่รัฐบาลประกาศไว้หรือไม่ นายวิษณุ ยืนยันว่า เรื่องนี้รัฐบาลดำเนินการตามนโยบายที่ประกาศไว้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ที่มีการเสนอเข้าไปและสภาฯรับหลักการแล้ว ส่วนจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้นเป็นเรื่องของทางสภาฯ ทั้งนี้ หากไม่ผ่าน ก็สามารถเสนอเข้าไปสู่สภาฯใหม่ได้