แนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง กลุ่มทะลุฟ้า เฟมินิสต์ปลดแอก เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทุบรี นัดรวมตัวกันเมื่อเวลา 11.30 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อร่วมทำกิจกรรรม "คาร์ม็อบ ยื่น หยุด ขัง" โดยจะมีการเคลื่อนขบวนจากอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า เลี้ยวขวาแยกบรมราชชนนี ข้ามสะพานพระราม 7 เข้าอุโมงค์รัชดา-ลาดพร้าว ไปศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้คืนสิทธิประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมือง จากนั้นขบวนคาร์ม็อบ จะเลี้ยวขวาที่แยกรัชโยธิน และเลี้ยวซ้ายแยกเกษตร เพื่อไปสู่เป้าหมายหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกคุมขัง
ล่าสุด ขบวนคาร์ม็อบได้เคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าศาลอาญา และมีการโปรยกระดาษเขียนข้อความถึงเพื่อนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจากบนสะพานลอยคนข้ามหน้าศาล พร้อมเตรียมส่งตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือภายในบริเวณศาล จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยในวันนี้จะไม่มีการปราศรัย
ขณะที่ศาลอาญาได้ปิดประตูทางเข้าออก และมีตำรวจประจำการ พร้อมรถฉีดน้ำจอดอยู่ข้างอาคารศาลอาญา
สำหรับหนังสือที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันยื่นถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ระบุว่า ตามที่มีการดำเนินคดีกับแกนนำราษฎร 7 คน ประกอบด้วย 1.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน 2.นายอานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ 3.นายภานุพงษ์ จาดนอก หรือ ไมค์ 4.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน 5.นายณัชนนท์ ไพโรจน์ 6.นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า 7.นายชาติชาย แกดำ หรือ บอย ด้วยการกล่าวหาว่ามีความผิดตามมาตรา 112 และอื่น ๆ จากการที่แกนนำทั้ง 7 ได้ใช้สิทธิเสริภาพการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ อันเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองไทย
การที่รัฐบาลดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าว จึงเป็นการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เพื่อคุกคามประชาชนที่รวมตัวกันเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพและประชาธิปไตย
ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดที่แสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ การควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหา หรือจำเลย ให้กระทำได้เพียงเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันมิให้มีการหลบหนี
ดังนั้น ด้วยปรากฏหลักฐานว่าแกนนำทั้ง 7 คนไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี ได้ต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด จึงควรได้รับการพิจารณาให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว โดยการประกันตัวเพื่อให้พวกเขาได้ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด
"เนื่องจากการคุมขังแกนนำราษฎรทั้ง 7 คนนี้ จะกระทบกระเทือนต่อสิทธิเสริภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไดย อันจะเป็นการส่งผลต่อภาพลักษณ์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย จึงขอกราบเรียนต่อศาลยุติธรรม เพื่อปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำราษฎรทั้ง 7 คน ตามสิทธิเสรีภาพแห่งรัฐธรรมนูญ 2560"
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ขบวนคาร์ม็อบที่เดินทางมาถึงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ทำการปล่อยนกพิราบ 7 ตัว ซึ่งเป็นการสื่อไปถึงการเรียกร้องให้ปล่อยตัว 7 แกนนำราษฎรที่ยังอยู่ในระหว่างการถูกคุมขัง ท่ามกลางบรรยากาศฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม ระบุว่า การปล่อยนกพิราบดังกล่าว เป็นการแสดงสัญลักษณ์ถึงการเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำทั้ง 7 คนจากการถูกคุมขัง เนื่องจากเห็นว่าแกนนำทั้ง 7 คน ยังไม่ได้รับการตัดสินจากกระบวนการของศาลว่ามีความผิด สถานะตอนนี้จึงถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการประกันตัว ไม่ใช่การถูกคุมขังอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
นอกจากนั้น การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ต้องการแสดงให้เห็นว่ามวลชนที่อยู่ข้างนอก ไม่เคยลืมแกนนำที่ถูกคุมขัง และพร้อมจะเดินหน้าต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้อำนาจประชาธิปไตยกลับมาเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ในช่วงท้าย กลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบได้มีตีกลอง และจบด้วยการร้องเพลงอวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับนายอานนท์ ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพด้วย ซึ่งเป็นการปิดท้ายกิจกรรมสำหรับวันนี้ พร้อมนัดหมายว่าวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) จะเคลื่อนขบวนไปรวมตัวกันอีกครั้งที่หน้าศาลธัญบุรี ก่อนจะประกาศสิ้นสุดกิจกรรมในเวลาประมาณ 15.30 น.