พล.ต.ต.ปิยะต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการชุมนุมวานนี้ (11 ก.ย.) มีการจัดกิจกรรม 2 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เวลา 14.50 น. ได้มายื่นหนังสือถึงสมเด็จพระสังฆราชที่วัดราชบพิธฯ ไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด และ 2.กลุ่มทะลุแก๊ส ที่บริเวณแยกดินแดง เริ่มรวมตัว 17.30 น. มีการละเมิดกฎหมาย ขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ที่มีความรุนแรงมากขึ้น บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก ทั้งมีการนำแผงเหล็กมาปิดการจราจร จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ ใต้ทางด่วน เป็นเหตุให้ประชาชนในละแวกดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน และเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่สัญจรผ่านไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศเตือนให้ให้ยุติการกระทำและออกจากพื้นที่หลายครั้ง แต่ไม่ยอมเชื่อฟังและยังคงก่อความวุ่นวายต่อเป็นระยะๆ
จนกระทั่งเวลา 21.15 น. เจ้าหน้าที่จึงต้องบังคับใช้กฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน บริเวณแยกดินแดง เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลตำรวจ 1 ราย ทั้งนี้ได้จับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 52 คน เป็น ชาย 40 คน หญิง 12 คน เป็นผู้ใหญ่ 43 คน เยาวชน 9 คน ในนี้มีต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 2 คน ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิกฯ และร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยมีอาวุธฯ หรือความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ที่มีความรุนแรงบริเวณแฟลตดินแดง มีการอ้างเจ้าหน้าที่ถีบล่วงลงมาทะลุหลังคานั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคฝ. ไล่ตามถีบเด็กลงมามีหลังคาทะลุลงมา มีการใช้ภาพเตียงนอน ข้างเตียงมีเศษแก้วเศษกระจกสีชาเท่านั้น จากการตรวจสอบไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ถีบเด็กลงมาแต่อย่างใด กรณีดังกล่าวจะให้ บช.สอท. ตรวจสอบกรณีนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จ ยืนยันว่า กรณีนี้ไม่มีเด็กตกลงมาแต่อย่างใด ส่วนมีเด็กตกลงมา 4 คนที่เจ้าของบ้านยืนยันนั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่าได้รับรายงานมีแค่วัตถุตกมาจากหลังคาเท่านั้น
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.เข้าไปบริเวณแฟลตดินแดงหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปชั้นล่าง ซึ่งประชาชนให้ข้อมูลเป็นอย่างดี ปิดประตูบ้านไม่ให้ใช้แฟลตดินแดงก่อเหตุ และผลักดันผู้กระทำผิดออกมา ทำให้จับกุมตัวได้หลายคน ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนแผนหรือไม่นั้นทาง ผบ.ตร. ให้ความห่วงใย ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย โดยเฉพาะตำรวจถูกระเบิดขว้างมาบริเวณใบหน้า คือ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ อายุ 28 ปี สังกัด ผบ.หมู่.บก.อคฝ. ได้รับบาดเจ็บจากการถูกประทัดปาใส่หน้าด้านขวา ทำให้มีแผลฉีกขาดที่บริเวณหน้าและตาขวา พบมีเลือดออกในสมอง, กระดูกเบ้าตาด้านขวาแตก มีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าและตาขวา จึงจะเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อุปกรณ์ป้องกันและยุทธวิธี และการใช้กฎหมายเป็นสำคัญ ซึ่งอุปกรณ์เป็นเครื่องป้องกันแต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย การถูกอาวุธปืนหรือระเบิด อุปกรณ์ป้องกันได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทาง บช.น. จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรงและก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน กรณีมีบุคคลที่ถูกจับดำเนินคดีเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชานั้น ถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหา ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหามั่วสุมก่อความวุ่นวายฯ ในทางปฏิบัติ บุคคลดังกล่าวจะต้องถูกส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเนื่องจากบุคคลนั้นกระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย จะได้พิจารณาออกคำสั่งให้เนรเทศผู้นั้นออกไปนอกราชอาณาจักร อีกทั้งยังจะมีรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองซึ่งหมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถขออนุญาตกลับเข้ามาในประเทศไทยได้
ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 203 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 754 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 509 คน
สำหรับกรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯในวันนี้ จะมีการรวมตัวกันก่อความวุ่นวาย คือ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ นัดหมายเวลา 17.30 - 20.30 น. ได้ประกาศยกระดับการปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดง และกลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบเวลานัดหมาย ที่แยกดินแดงเช่นกัน ทาง บช.น.ขอเตือนว่า กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง
ส่วนผู้ชุมนุมจะยกระดับความรุนแรงนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เน้นความปลอดภัยตำรวจ พี่น้องประชาชน ผู้ถูกจับกุมต้องได้รับความปลอดภัย ก่อผลกระทบให้น้อยที่สุด ส่วนจะเข้าพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องแฟลตดินแดงหรือไม่นั้น ตำรวจได้พูดคุยมาโดยตลอดประกาศแจ้งเตือนต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อยากให้ปัญหานี้จบลง การก่อเหตุดังกล่าวมีแต่การสร้างปัญหา โดยหน้าที่ของตำรวจจะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปโดยเร็วที่สุดตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ ทั้งนี้ได้มีการปรับมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทุกฝ่าย โดยปฏิบัติการให้อยู่ในวงจำกัด