ตัวแทน 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าชื่อยื่นหลักฐานต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ. ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พูดในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการจ่ายเงินให้ ส.ส. จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อจูงใจแลกกับการลงมติโหวตไว้วางใจที่ชั้น 3 อาคารรัฐสภา
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่านค้าน) กล่าวว่า ต้องการขอให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และทำให้เกิดผลเสียต่อภาพพจน์ของรัฐสภา ดังนั้นการจะปล่อยให้เรื่องนี้หายไป ไม่ใช่เรื่องที่ควรให้เกิด ต้องให้เรื่องนี้มีข้อยุติ จึงได้ยื่นเรื่องนี้ต่อประธาน กมธ.ป.ป.ช. สอบสวนข้อเท็จจริงว่าสรุปแล้วมีผลอย่างไร ก็จะดำเนินการต่อไปให้เหมาะสม
"ข้อมูลที่ได้มา มีทั้งที่แสวงหามา และมีผู้มาให้ข้อมูล มีครบทั้งภาพ คลิปวีดีโอ และพยานบุคคล มั่นใจว่าจะดำเนินการได้แน่นอน แต่ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของกมธ.ป.ป.ช.ด้วย" นายสุทินกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เพิ่งรับเรื่องมา จึงยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ตนและผู้สื่อข่าวเชื่อเกินครึ่งอยู่แล้วว่ามีการซื้อเพื่อให้ลงคะแนนไม่ไว้วางใจจริง เพราะได้รับฟังในสภาฯ ตั้งแต่วันนั้น และบรรดาส.ส.ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้มาคุยกับตน ตนจึงเสนอขอให้ไปเป็นพยาน แต่ไม่มีใครกล้ารับ ดังนั้นหลายคนรู้หมดแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร แต่เพียงแต่หาพยานหลักฐานที่มูลความชี้มูลความผิดผู้กระทำความผิดได้หรือไม่เท่านั้นเอง ซึ่งตนก็ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่จะตรวจสอบเพิ่มขึ้นไปอีก
"การทำงานในช่วงที่ผมเป็นตำรวจ ต่างกับการเป็นกรรมาธิการฯ ตอนเป็นตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเมื่อไรก็ได้ สามารถออกหมายจับได้ทุกเวลาตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทุกวันไม่มีวันหยุด แต่กรรมาธิการ เราทำได้เฉพาะวันที่ประชุมเท่านั้น รวมถึงยังมีภารกิจที่ต้องให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย ยืนยันว่าจะพยายามรีบดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากเห็นส.ส.ประพฤติชั่ว กินสินบาท คาดสินบน จะยกมือให้ทีต้องใช้เงินเป็นหลัก แบบนี้ประเทศอยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำประเทศเป็นนายกรัฐมนตรี ประพฤติปฏิบัติเสียเอง ประเทศก็อยู่ไม่ได้ ขอถามย้อนกลับว่า ที่ซื้อตำแหน่งกัน เพื่อป้องกันตำแหน่งกัน ก็ไปจ่ายเงินกับนักการเมืองผู้มีอำนาจทั้งนั้น ตอนนี้ผมเชื่อแล้วครึ่งหนึ่ง เพียงแต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ ส.ส.ที่ร่วมรู้เห็นเหตุการณ์ด้วยก็ช่วยกันเสียสละเพื่อบ้านเมือง แล้วผมจะกันไว้เป็นไทยพยานเอง" ประธาน กมธ.ป.ป.ช. กล่าว
พร้อมคาดว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในกรรมาธิการฯ ได้ในวันที่ 29 ก.ย. ส่วนวันที่ 22-23 ก.ย.นี้ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล และชี้แจงข้อเท็จจริง อาจจะเป็นนายวิสาร ลำดับแรก และยืนยันอีกครั้งว่าจะทำเรื่องนี้ให้ปรากฎเป็นที่ประจักษ์