นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินข่าวการยุบสภา มีเพียงแต่การนำเสนอของสื่อมวลชน และนักการเมืองก็ยังไม่ได้มีการพูดถึงการยุบสภา ส่วนกรณีแกนนำรัฐบาล และ ส.ส.ทยอยลงพื้นที่เนื่องจากเป็นช่วงปิดสมัยการประชุมสภา ซึ่งในอดีต ส.ส.ก็จะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวลงพื้นที่ เช่นเดียวกับตนเองที่เตรียมลงพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อนำหน้ากากอนามัยไปมอบให้กับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อนำไปดูแลประชาชน เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองได้ลงพื้นที่เกือบครบทั้งประเทศแล้วขาดเพียงภาคเหนือเท่านั้น
ส่วนกรณีเกิดเหตุองค์ประชุมร่วมรัฐสภาไม่ครบในวันสุดท้ายของการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การปฏิรูปศึกษานั้นไม่ใช่สภาล่ม เพราะก่อนหน้านั้นมีข้อตกลงของทั้งวิปฝ่ายค้าน วิปรัฐบาล และวิปวุฒิสภาที่จะให้ ส.ส. และ ส.ว. สามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่ และจะมีการลงมติรับหลักการหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ แต่ระหว่างการอภิปรายมี ส.ส.ฝ่ายค้าน เสนอให้ลงมติทันที ซึ่งตนเองได้สำรวจที่บริเวณนอกห้องประชุมและห้องอาหารแล้วพบว่ามี ส.ส.อยู่ร่วมประชุมจำนวนมาก แต่มีข้อตกลงภายในของทั้ง 3 ฝ่ายที่จะให้มีการลงมติในสมัยประชุมถัดไป จึงไม่ใช่อุบัติเหตุสภาล่ม หรือความตั้งใจของสมาชิกที่จะให้เกิดภาพเช่นนี้ ส่วนจำเป็นจะต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อมาพิจารณาลงมติหรือไม่นั้นให้เป็นการพิจารณาของฝ่ายบริหาร
นายชวน กล่าวว่า ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในเดือน พ.ย.นี้จะเชิญผู้แทนจากทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมาหารือถึงการปรับแนวทางการพิจารณาร่างกฎหมาย หลังมี ส.ส.อภิปรายกันจำนวนมากจนทำให้การพิจารณาล่าช้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอความร่วมมือ ส.ส.ไปแล้ว และในอดีตก็มีการแบ่งสัดส่วนจำนวน ส.ส. ของแต่ละพรรคการเมืองในการอภิปราย แต่ ส.ส.ชุดนี้ไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับการจำกัดเวลาอภิปรายที่ ส.ส.ชุดนี้ส่วนใหญ่มักจะอ่านตามบทอภิปรายที่เตรียม ดังนั้นเมื่อข้อให้สรุปรวบรัดเวลาก็ไม่สามารถทำได้ และยอมรับว่าสภาต้องหยุดการประชุมไป 1 เดือนหลังสถานการณ์โควิด แต่เมื่อเปิดการประชุม ส.ส.ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเช่นกัน